สองตายายร่ำไห้ถูกหลานแสบหลอกขายรถยนต์ติดไฟแนนซ์

บุรีรัมย์ 8 พ.ค. – สองตายายที่บุรีรัมย์ น้ำตานอง ถูกหลานสาวและหลานเขยหลอกขายรถกระบะ 4 แสนบาท โดยไม่บอกว่ายังค้างค่างวด แถมขอยืมอีก 2 แสนบาท จึงนำเงินที่ได้จากการขายที่มรดกให้ไป 6 แสนบาท แต่กลับโดนไฟแนนซ์ตามทวงค่างวด นำหลักฐานแจ้งตำรวจฐานร่วมกันฉ้อโกง แต่กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะหลานแสบอ้างรู้จักนักการเมือง ขู่ฟ้องตายายเอาผิดซื้อของโจร


นายเปลี่ยน และนางวัฒนา เบิกบาน สองสามีภรรยา ชาวบ้านก้านเหลือง ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ นำเอกสารหลักฐานออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากเมื่อปี 2564 ถูกนางบัว และนายทอง (นามสมมติ) หลานสาวและหลานเขย หลอกให้ซื้อรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ ในราคา 400,00 บาท โดยไม่บอกว่ายังค้างชำระค่างวด อีกทั้งรับปากว่าเมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วจะทำเรื่องโอนชื่อให้ แต่พอจ่ายเงินให้เรียบร้อยกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมโอนรถเป็นชื่อตายาย แถมยังอ้างว่าเดือดร้อนมาขอยืมเงินตายาย อีก 200,000 บาท ด้วยความสงสารและเห็นว่าเป็นหลานแท้ๆ คงจะไม่มีปัญหาอะไรจึงให้ยืม

จากนั้นวันที่ 5 สิงหาคม 2564 หลานทั้ง 2 คน มาถามขายดาวน์รถยนต์ยี่ห้อนาวารา ให้ลูกชายตนอีก ราคา 100,000 บาท ลูกชายบอกว่าอยากได้รถไว้ใช้งาน จึงเบิกเงินธนาคารจ่ายให้หลานไป 100,000 บาท ก็เอารถมาใช้และส่งค่างวดตามปกติเดือนละ 10,000 บาท ก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีเอกสารจากไฟแนนซ์มาทวงถามค่างวดของรถยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ เนื่องจากค้างชำระ 3 งวด ตกใจมาก เพราะจ่ายเงินให้หลานไปแล้ว 400,000 บาท คิดว่าไม่ได้ค้างค่างวดอะไรแล้ว พอไปสอบถามหลานสาวอ้างว่าไม่รู้เรื่องกับสามี และตัวสามีซึ่งเป็นหลานเขยก็ไม่ได้อยู่บ้านแล้ว ไม่รู้ว่าไปไหน ยายบอกว่าเงินที่จ่ายค่าซื้อรถยนต์ต่อจากหลาน 400,000 บาท และเงินที่ให้ยืมอีก 200,000 บาท รวมทั้งเงินที่ซื้อดาวน์รถยนต์ให้ลูกชายอีก 100,000 บาท เป็นเงินที่ได้จากการขายที่ดินมรดกของครอบครัวสามี รวมทั้งหมด 12 ล้านบาท หารแบ่งกัน 6 คน ได้คนละ 2 ล้านบาท ซึ่งก็นำไปชำระหนี้สิน ใช้จ่ายในครอบครัว และจ่ายค่ารถยนต์ที่หลานหลอกให้ซื้ออีก ตอนนี้แทบไม่มีเงินเหลือแล้ว เดือดร้อนมาก


นอกจากจะถูกไฟแนนซ์ตามทวงค่างวดรถที่หลานเขยหลอกให้ซื้อแล้ว หลานยังอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น ขู่ว่าจะฟ้องเอาผิดฐานรับซื้อของโจรอีก จึงอยากให้ผู้รู้กฎหมายและวิงวอนทั้งน้ำตาขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือด้วย เพราะตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร หากเป็นไปได้อยากคืนรถทั้ง 2 คันให้กับหลาน และให้หลานเอาเงินทั้งค่าซื้อรถยนต์ และที่ขอยืม รวม 700,000 บาทมาคืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง