กรุงเทพฯ 6 พ.ค.-“อธิบดีกรมทางหลวง” ชี้แจงกรณีเสาหลักนำทางยางพารา เป็นการติดตั้งเพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง และช่วยเหลือเกษตรชาวสวนยาง ในช่วงที่ราคายางตกต่ำ ยืนยันดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตามระเบียบกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวง ได้ ชี้แจง กรณีหลักนำทางยางพาราที่ติดตั้งบนทางหลวงที่จังหวัดน่าน ตามที่มีข่าวปรากฎในโซเชียลขณะนี้
โดยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า สืบเนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2564 กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้มีการนำยางพารามาใช้ในอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตามนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ โดยใช้เสาหลักนําทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) เพื่อสนับสนุนการใช้ยางพารา โดยบูรณาการความร่วมมือทำข้อตกลง (MOU) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์
1. เพื่อช่วยยกระดับราคายางพารา เพิ่มรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและระบายผลผลิตยางพาราอย่างเป็นรูปธรรม
2. เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ลดความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากคุณสมบัติของวัสดุยางพารามีความยืดหยุ่น ต่อมา กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 เพื่อให้หน่วยงานสามารถจัดซื้อตรงกับกลุ่มเกษตรกรได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยกรมทางหลวงได้ดำเนินการจัดซื้อกับร้านค้าสหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกรที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับรองโดยตรง
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า หลักนำทางยางธรรมชาติที่ผลิต ได้ทำการออกแบบ ตามมาตรฐานตามข้อกำหนด โดยคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง และประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรชาวสวนยาง ในภาวะที่ราคายางตกต่ำช่วงปีที่ผ่านมา โดยแขวงทางหลวง เป็นผู้ดำเนินการซื้อโดยตรงจากสหกรณ์ชาวสวนยาง และนำมาติดตั้ง เมื่อเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ในสายทางที่มีอุปกรณ์นำทาง (เสาหลักนำทาง , Guide Post) ไม่ครบถ้วน หรือทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย เพื่อนำทางแก่ผู้ใช้ทางในเวลากลางคืน หรือในขณะที่มีทัศนวิสัยไม่ดี รวมถึงลดความรุนแรงและความสูญเสียจากยานพาหนะที่เสียหลักไปชนเสาหลักนำทาง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่เสียหลักจะมีความเสี่ยงทำให้เกิดการเสียชีวิต ทั้งนี้ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาผลิตหลักนำทางยางธรรมชาตินั้น ตามแบบด้านในให้เป็นเสาหลักกลวง มีความยืดหยุ่น ดังนั้นในการติดตั้งบนทางหลวง จึงได้มีการประยุกต์ใส่แกนลงในเสา เช่น ไม้ไผ่ ไม้ยูคา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการติดตั้ง และสามารถติดตั้งได้รวดเร็วขึ้น สำหรับการคิดราคากลางในการจัดซื้อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของของทางราชการ ซึ่งราคาเสาหลักนำทาง จะแปรผันตามราคายางพารา
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวด้วยว่า การดำเนินการติดตั้งเสาหลักนำทางยางพาราบนทางหลวง เป็นไปตามหลักวิศวกรรมงานทาง เพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง และเป็นการช่วยเหลือเกษตรชาวสวนยาง ในช่วงที่ราคายางตกต่ำและขอยืนยันว่า เป็นการดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตามระเบียบ กฏหมายที่เกี่ยวข้อง ทุกประการ
หากประชาชนมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูล หรือต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง).-สำนักข่าวไทย