กรุงเทพฯ 6 พ.ค.- ทางสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว เเจ้งเตือนประชาชนให้ระวังถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ไม่หวังดี ซึ่งตอนนี้ราคาน้ำมันพืชปรุงอาหารในตลาดและห้างสรรพสินค้าปรับเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มขาดตลาด แต่กลับพบว่ามีการประกาศขายออนไลน์ในราคาถูก 4 ขวด 100 บาท
ราคาน้ำมันพืชในห้างสรรพสินค้าตอนนี้อยูที่ประมาณ 65-66 บาทต่อขวด สำนักข่าวไทยตรวจสอบไปยังช่องทางการขายออนไลน์พบว่า มีราคาขายที่ต่ำกว่าราคาตลาดทั่วไปหลายเท่าตัว โดยราคาต่ำสุดคือ 4 ขวด 100 บาท ตกขวดละ 25 บาท หรือจำหน่ายยกลัง 12 ขวด ในราคาเพียง 300 บาท ราคาต่างกันมากกว่า 2 เท่าตัว
ทางสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว ออกมาแจ้งเตือนแล้วว่าขอให้ประชาชนระวังถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ไม่หวังดี เรื่องการซื้อน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด ซึ่งปรากฏพบข้อความโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์ Market Place บางเพจประกาศราคาขายต่ำมากกว่า 4 ขวด 100 บาท หรือขวดละ 25 บาทหรือต่ำกว่านั้น โดยทางสมาคมตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่เป็นความจริง ภายหลังจากติดต่อไปพบว่าเพจดังกล่าวไม่มีสินค้าที่จะจำหน่ายตามราคาที่ระบุจริง และปิดเพจหนีไป หลังจากนี้ทางสมาคมจะดำเนินการในลำดับต่อไป ระบุต้นทุนการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองขณะนี้ปรับราคาสูงขึ้นมาก ซึ่งเป็นไปตามตลาดโลก ดังนั้นจึงไม่มีโรงงานผู้ผลิตรายใดที่จะสามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาดังกล่าว ขอให้ผู้บริโภคใช้ความระมัดระวัง
ข้อมูลจากสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย ระบุว่าขณะนี้โรงสกัดปรับราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันในหลายพื้นที่ สูงขึ้นเกินกว่า 12 บาทต่อกิโลกรัม อาทิ ราคา ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 11.40-12.10 บาท จังหวัดกระบี่กิโลกรัมละ 11.20 – 12.10 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาสูงสุดรอบใหม่จากที่ราคาผลปาล์มเคยสูงไปที่กิโลกรัมละ 10 บาทในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ปรับขึ้นจากก่อนหน้านี้กิโลกรัมละ 55 – 56 บาทเป็นกิโลกรัมละ 59-62 บาท ราคาหน้าป้ายบางจุดก็ทะลุ 12 ไปแล้ว ปกติแต่ละโรงงานจะจ่ายสูงกว่าราคาหน้าป้ายประมาณ 20-30 สต. ขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณ
สาเหตุสำคัญมาจากราคาตลาดโลกปรับขึ้น ผลผลิตพืชน้ำมันอื่น เช่น ถั่วเหลือง เรปซีด ทานตะวันมีปัญหา ในยุโรป อินโดฯ ห้ามส่งออก ความต้องการน้ำมันปาล์มขึ้นสูง ทั้งยังมีความต้องการใช้จากอินเดียที่เพิ่มมากด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาของไทยอาจจะมีปรับเปลี่ยน
ส่วนวันนี้ตั้งแต่ตี 5 เป็นต้นมา ผู้ค้าน้ำมันปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์อีก 80 สต./ลิตร ตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก ส่วนดีเซลคงเดิม PTT Station และบางจากประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.80 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม
น้ำมันแพงแบบนี้หลายคนก็ปรับตัว ประหยัดน้ำมันที่จังหวัดตรัง บรรยากาศที่ท่าแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำตรัง จากตัวเทศบาลเมืองกันตัง ถึงงานท่าส้ม มีประชาชนที่ใช้รถทุกชนิดหันมาใช้บริการกันมากกว่าปกติ เพราะสามารถย่นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ดังนั้นจะเห็นรถทุกชนิดข้ามฟากแม่น้ำตรังกับแพขนานยนต์กันมากในช่วงนี้เพราะค่าบริการแพขนานยนต์ถูกกว่าน้ำมันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ขับระยะทาง 10 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารแพขนานยนต์ทางเทศบาลเมืองกันตังเก็บในอัตราที่ถูกมาก ๆ รถยนต์กระบะ เก๋ง คันละ 10 บาท รถจักรยานยนต์ 5 บาท และคนโดยสารคนละ 2 บาทเท่านั้น
ขณะที่ที่ท่าเทียบเรือต่างประเทศเทศบาลเมืองกันตัง มีเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจำนวนมาก เรือประมง และเรือท่องเที่ยว ยังไม่สามารถแล่นออกทะเลได้มาจากหลายปัจจัย เรือขนส่งสินค้าต่างประเทศช่วงประเทศจีนปิดประเทศ การระบาดโควิด-19 ไม่นำเข้าสินค้า ไม่มีสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ทำให้เรือขนส่งสินค้าจำนวนมากจอดทอดสมอมานานนับปีแล้ว
ส่วนเรือประมงพาณิชย์ ต่างประสบปัญหาราคาน้ำมันดีเซลมีราคาแพงลิตรละ 32 บาท ทยอยกลับเข้าฝั่งจอดทอดสมอที่ท่าแพของตนเองกันเป็นจำนวนมาก ส่วนเรือบางลำก็ยังนำเรือออกทะเลเพื่อไปทำการประมง เพราะบางครั้งโชคดีอาจจะจับปลาและสัตว์น้ำได้มากกลับเข้าฝั่งพอมีกำไรบ้าง
ส่วนเรือทัวร์เพื่อการท่องเที่ยว เมื่อรัฐบาลออกนโยบายเปิดประเทศ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาผู้ประกอบเรือนำเที่ยวสีขาวลำใหญ่บรรทุกนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ซึ่งต่อมาใหม่เอี่ยมที่อู่ต่อเรือกันตัง ก็เตรียมเรือที่จะส่งมอบให้ลูกค้า เพื่อออกไปรับนักท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป นอกจากนั้นจะพบว่าเรือประมงที่ดัดแปลงสภาพมาทำเป็นเรือทัวร์นำเที่ยว และเรือตกปลาหลายลำ ก็เริ่มทำการปัดฝุ่นลงมือซ่อมแซมเรือเพื่อรอรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ