ดีเซลลดอีก 50 สต. เหลือ 32 บาท มีผล 15 พ.ค.

กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – ดีเซลปรับลดราคาอีก 50 สตางค์ เหลือ 32 บาท/ลิตร มีผล 15 พ.ค.นี้ เผยกองทุนน้ำมันฯ ยังติดลบแต่มีสภาพคล่องดีขึ้น ล่าสุดติดลบต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาทแล้ว


 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เห็นชอบการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก 0.50 บาท/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 32 บาท/ลิตร โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป เป็นการปรับลดครั้งที่ 6 นับจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารวมปรับลดลงไปแล้ว 3 บาท/ลิตร

สาเหตุการปรับลดครั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลลดลง โดยตั้งแต่วันที่ 1 – 8 พฤษภาคม 2566 ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 86.42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 10.70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 97.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มดีขึ้นมีฐานะติดลบต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาทแล้ว กบน. จึงเห็นควรปรับลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับประชาชน ซึ่งนอกจากจะช่วยประคับประคองค่าครองชีพประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนภาคขนส่งไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย


อย่างไรก็ดี ความผันผวนของราคาน้ำมันยังคงมีหลากหลายปัจจัย โดยจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์สำคัญๆ ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงต้นเดือนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อหลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.00 – 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากบรรดานักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้งในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคของสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังปัจจัยรุมเร้ารอบด้าน อาทิ การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังเปิดประเทศ ความผันผวนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 79,327 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 32,581 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,746 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น