เชียงใหม่ 28 เม.ย.- รมว.ยุติธรรม ติดตามการขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด เกือบ 200 รายการ มูลค่า 80 ล้าน และชมนวัตรกรรมพืชกระท่อม
วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการเปิดประมูลทรัพย์คดียาเสพติด เกือบ 200 รายการ มูลค่ากว่า 80ล้านบาท พร้อมแจกต้นกล้าพืชกระท่อมให้ประชาชนและชมนวัตกรรมพัฒนาพืชกระท่อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดงานขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติด ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา โดยมีทรัพย์สินที่นำมาขายทอดตลาดจำนวนทั้งสิ้น 188 รายการ มูลค่ากว่า 80ล้านบาท ประกอบด้วยทรัพย์สินประเภท ที่ดิน จำนวน 70รายการ ยานพาหนะ จำนวน 33 รายการ ทอง พระเครื่อง เครื่องประดับ จำนวน 80 รายการ และเครื่องใช้ไฟฟ้า จำนวน 15 รายการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นการตัดวงจรและเครือข่ายการค้ายาเสพติด ด้วยการสืบสวนทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ตั้งเป้ายึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ปี2565 ให้ได้ 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการพืชกระท่อม เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทย กินใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน พร้อมมอบต้นกล้าพืชกระท่อมให้กับผู้นำหมู่บ้าน และประชาชน ให้สามารถต่อยอดสร้างรายได้ต่อไป สำหรับพืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการนำพืชกระท่อมไปใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาต่อยอดพืชกระท่อม เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ด้วย
จากนั้นนายสมศักดิ์ เดินทางมาที่อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาพืชกระท่อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง จากผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ และนายกสมาคมพืชกระท่อมแห่งประเทศไทย เพื่อรับทราบข้อมูลนวัตกรรมพัฒนาพืชกระท่อมสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อให้ได้สารสกัดกัญชา กัญชง หรือกระท่อม ที่มีความบริสุทธิ์สูง เพื่อสามารถนำไปใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ,ยารักษาโรค และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ และขับเคลื่อนสารสกัดพืชเป้าหมาย ให้สามารถตอบโจทย์เชิงเศรษฐกิจ ที่จะก่อให้เกิดรายได้ เกิดการลงทุน และเชิงสังคมในด้านการจ้างแรงงาน และเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตามแนวนโยบายยุทธศาสตร์ชาติต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดพืชกระท่อมในต่างประเทศมีรองรับอยู่แล้ว หากไทยสามารถพัฒนาให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ ส่วนการแปรรูปเป็นแป้งหรือใบแห้ง เพื่อส่งออกตอนนี้ราคาใบสดยังดีกว่า เชื่อว่าการปลูกกระท่อมในอีก 6 เดือน 1 ปี ปริมาณจะมีมากขึ้น ยิ่งทางมหาลัยช่วยวิจัยนวัตรกรรมต่างๆ ออกมามั่นใจว่าจะเป็นปีทองพืชเศรษฐกิจของไทย
ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐ ที่วางให้เป็นประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือนั้น มองว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเขียนนโยบาย แต่ในช่วงนี้คนในพรรคต้องมีความสามัคคีก่อน เพื่อสร้างความศรัทธาให้เกิดขึ้น และให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เขียนนโยบายที่เป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้พรรคอื่นๆและประชาชนเห็นศักยภาพในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป หากทำบ้างไม่ทำบ้างก็มีแต่จะเสียไปมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย