กรุงเทพฯ 27 เม.ย.-“วิโรจน์” หาเสียงเขตดุสิต ลั่นนโยบายปรับอัตราค่าธรรมเนียมเก็บขยะเป็นธรรม ลดเหลื่อมล้ำ ไม่สนโพลชี้ “พล.ต.อ.อัศวิน” ขึ้นแซง มั่นใจโพลของพรรคมากกว่า
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนริมน้ำเขตดุสิต บริเวณหมู่บ้านคอนเซปชั่น โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บขยะ ไม่มีที่ทิ้งขยะ ซึ่งถือเป็นความเหลื่อมล้ำ ทั้งที่ประชาชนในชุมชนนี้เสียภาษีและเสียค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะ แต่ปรากฎว่าเขตกลับไปจัดเก็บขยะให้กับห้างสรรพสินค้าและโรงแรมหรู แต่สำหรับประชาชนกลับไม่มีแม้แต่ถังขยะมาบริการ ประชาชนจึงต้องดูแลตัวเอง
“ผมไม่ได้มองแค่เรื่องการเก็บขยะ ค่าใช้จ่ายที่กรุงเทพมหานครแบกรับเรื่องการจัดการขยะ 7 พันล้านบาท แต่เก็บค่าจัดการขยะได้เพียง 5 ร้อยล้านบาท ขณะที่ร้านสะดวกซื้อจ่ายแค่เดือนละ 120 บาท ห้างใหญ่จ่ายเดือนละแค่ไม่กี่หมื่นบาท คำถามคือ แล้วจะเอาเงินตรงไหนมาพัฒนาและปรับปรุงจุดทิ้งขยะ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการบังคับใคร แต่ต้องการอัตราที่เป็นธรรมสำหรับทุกคน หากจัดการกติกาเหล่านี้อย่างเป็นธรรมแล้ว ก็จะไม่มีผู้ว่าฯ คนใดแก้กฎระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเพื่อเอาเปรียบคนกรุงเทพฯไม่ว่าจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ขณะนี้คะแนนของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองแซงนายวิโรจน์ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ว่า ให้ความสำคัญกับการทำงานในพื้นที่มากกว่า เราทำงานในพื้นที่กับผู้สมัคร ส.ก.เราดีกว่า อีกทั้งพรรคก้าวไกลก็เก็บข้อมูลสำรวจทางสถิติเช่นเดียวกัน ซึ่งพบว่าผลตอบรับดีกว่าผลสำรวจดีกว่าที่นำเสนอออกมา ยืนยันว่า เวลานี้ยังมีความมั่นใจ
ส่วนจะปรับกลยุทธ์ช่วงโค้งสุดท้ายให้เข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือการสื่อสารเชิงนโยบาย จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนดูคลิปสั้นที่สื่อสารนโยบายแบบสนุก ๆ ซึ่งล่าสุดเผยแพร่คลิปผ่านทาง Facebook ของพรรคก้าวไกล รวมถึง Facebook ของตนเองด้วย เพราะในยุคนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย ส่วนที่หลายคนมองว่าคนกรุงเทพฯ ไม่ได้ตัดสินใจเลือกผู้ว่าจากนโยบายนั้น ไม่เป็นความจริง ในยุคก่อน การสื่อสารนโยบายทางเทคโนโลยีค่อนข้างจำกัด แต่ยุคนี้มีโซเชียลมีเดีย ทำให้ประชาชนเข้าใจนโยบายได้ในระยะเวลาสั้น ดังนั้น ช่วงโค้งสุดท้ายนี้จึงจะเน้นการสื่อสารเชิงนโยบายในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และเชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจจากนโยบายที่จับต้องได้จริง บอกถึงที่มาในการจัดเก็บรายได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย