กองปราบฯ 27 เม.ย.- กองปราบฯ ตามรวบ “หม่อมหลวง” กับพวก ตั้งแก๊งตั๋วทิพย์ หลอกตำรวจโอนเงินกว่า 5.7 ล้านบาท อ้างช่วยวิ่งเต้นให้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้กำกับการได้ ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของหนึ่งในผู้ต้องหา พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท ผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม แถลงผลการจับกุม ม.ล.จรัลพงษ์ หรือหม่อมแฟรงค์ อายุ 53 ปี, นางอณัญญา หรือเจ๊ญา อายุ 53 ปี และนางปฏิญาพร หรือเจ๊โหน่ง อายุ 49 ปี ที่ร่วมกันตั้งแก๊งตั๋วทิพย์ หลอกลวงเงินวิ่งเต้นตำแหน่งนายตำรวจ
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ตำแหน่งรองผู้กำกับการในจังหวัดอุดรธานี ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงว่าสามารถช่วยเหลือวิ่งเต้นให้เลื่อนตำแหน่งได้ โดยเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2564 มีคนแนะนำให้ผู้เสียหายรู้จักกับนางปฏิญาพร ซึ่งอ้างว่าจะช่วยให้ขึ้นตำแหน่งเป็นผู้กำกับการได้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปให้จำนวน 200,000 บาท จากนั้นพาไปพบกับนางอณัญญา และหม่อมหลวงจรัลพงษ์ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี เพื่อพูดคุยสร้างความน่าเชื่อถือมีการอ้างว่ารู้จักสนิทสนมกับผู้หลักผู้ใหญ่ นักการเมืองระดับประเทศ และข้าราชการตำรวจระดับสูงหลายคน จนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปให้อีก 3 ล้านบาท ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาได้ออกอุบายอ้างว่ามีตำรวจนายอื่นให้เงินมากกว่า จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเกทับอีก 2 ล้านบาท ผู้เสียหายก็หลงเชื่ออีก จึงได้โอนเงินไปให้ รวมเป็นเงินทั้งหมด 5,750,000 บาท
แต่เมื่อผลการแต่งตั้งนายตำรวจเสร็จสิ้น ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้กำกับการแต่อย่างใด รวมทั้งไม่สามารถติดตามกลุ่มผู้ต้องหาได้อีก จึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ สภ.ภูแก้ว จ.อุดรธานี แต่ต่อมาเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหารู้จักกับผู้มีอิทธิพล จึงขอให้โอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปรามทำคดีแทน ซึ่งต่อมาก็ได้สืบสวนหาข้อมูลจนพบว่า แก๊งนี้ทำกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ก่อนจะให้โอนเงินเข้าไปในบัญชีของกลุ่มขบวนการ จนสามารถตามจับกุมหม่อมหลวงจรัลพงษ์ ได้ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และจับกุมนางปฏิญาพร ได้ที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนนางอณัญญา เข้ามอบตัวต่อตำรวจ
จากการตรวจสอบยังพบว่า ผู้ต้องหามีประวัติการกระทำความผิดมาแล้ว 13 คดี ตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีเงินฝากของนางอญัญญา พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย