สหรัฐ 26 เม.ย. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท เทสลา และ สเปซเอ็กซ์ ประสบความสำเร็จในการซื้อกิจการของ ทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ด้วยวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์ฯ หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้หลายล้านคน
บอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ เริ่มเจรจารอบใหม่กับ อีลอน มัสก์ ที่เสนอซื้อหุ้นของทวิตเตอร์ ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่การเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วดูเหมือนจะล้มเหลว ก่อนที่ มัสก์ จะออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ระบุว่า การแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีคือรากฐานของประชาธิปไตยที่ทำงานได้จริง และทวิตเตอร์คือชุมชนแห่งดิจิทัล ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนรวมในการถกเถียงประเด็นสำคัญต่ออนาคตของมนุษยชาติ ยืนยันการซื้อกิจการทวิตเตอร์ ด้วยวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.5 ล้านล้านบาท)
มัสก์ ยังทวีตข้อความต่อผู้ติดตามมากกว่า 80 ล้านคนในทวิตเตอร์ว่า สื่อสังคมออนไลน์นี้มีศักยภาพสูงยิ่ง และเขาต้องการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ สร้างระบบอัลกอริทึมแบบเปิดกว้าง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ดีดตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 6 หลังข่าวนี้ อยู่ที่ระดับ 51.90 ดอลลาร์ฯ/หุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากระดับราคาก่อนที่มัสก์เผยว่า เขาได้ซื้อหุ้นร้อยละ 9 ของทวิตเตอร์ แต่ยังคงต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ซื้อขายกันเมื่อปีที่แล้วที่เกือบ 70 ดอลลาร์ฯ/หุ้น
ด้านทวิตเตอร์ ระบุว่า มัสก์จะชดใช้หนี้มูลค่า 25,500 ล้านดอลลาร์ฯ ของบริษัท และจะอัดฉีดเงินอีก 21,000 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทด้วย ขณะที่รายงานข่าวบอกว่า ข้อตกลงซื้อขายนี้ผ่านความเห็นชอบของบอร์ดบริหารแล้ว เตรียมเข้าสู่การลงมติของบรรดาผู้ถือหุ้นในลำดับต่อไป
ขณะที่ทางทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ แต่ระบุว่า ที่ผ่านมาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ รู้สึกเป็นกังวลต่ออิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งรวมถึงทวิตเตอร์ และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในการเผยแพร่ข่าวลวงหรือข้อมูลผิด ๆ
ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ ถือเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 237,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.65 ล้านล้านบาท). – สำนักข่าวไทย