กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- กรมควบคุมมลพิษร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติและกองบังคับการตำรวจจราจรฝึกอบรมเชิงตำรวจจราจรเกี่ยวกับตรวจวัดระดับเสียงของยานพาหนะและการออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะเสียงดังเกินมาตรฐานให้เป็นไปตามหลักมาตรวิทยา เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในผลการตรวจวัดและลดข้อโต้แย้งที่อาจเกิดขึ้น
นายพรศักดิ์ ภู่อิ่ม รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรการตรวจวัดระดับเสียงและการออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะเสียงดังเกินมาตรฐานให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ในระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายนซึ่งจะถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งด้านทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อยกระดับความสามารถให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เพิ่มความน่าเชื่อถือในผลการตรวจวัด และลดข้อโต้แย้งที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ คพ. ได้ปรับปรุงการกำหนดมาตรฐานระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ โดยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ ฉบับลงวันที่ 22 ตุลาคม 2563 และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 แทนประกาศที่ออกเมื่อปี 2546 โดยปรับวิธีการตรวจวัดให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเทคโนโลยีและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตลอดจนปรับปรุงการกำหนดค่ามาตรฐานระดับเสียงให้สัมพัทธ์กับค่าผลการทดสอบระดับเสียงขณะอยู่กับที่ที่ได้รับการรับรองแบบโดยกรมการขนส่งทางบก โดยร่วมมือกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) จัดทำคู่มือการตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ขึ้นตามประกาศดังกล่าว
นายจรัญ ยะฝา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กล่าวว่า มว. มีความพร้อมในด้านเครื่องมือตรวจวัดเสียงและองค์ความรู้ด้านการวัดที่ถูกต้อง เพื่อใช้ในการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่มีความสอดคล้อง และเป็นการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติตามเทคนิคการวัดได้อย่างถูกต้องและเป็นไปตามหลักมาตรวิทยา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงาน ทั้งเรื่องความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของผลการตรวจวัดระดับเสียง
นอกจากนี้ สถาบันได้ดำเนินการสอบเทียบเครื่องมือวัดเครื่องวัดระดับเสียงและเครื่องกำเนิดเสียงของ บก.จร. เพื่อให้แน่ใจผลการวัดมีความถูกต้องแม่นยำ และน่าเชื่อถือตามมาตรฐานสากล ที่จะถูกนำไปใช้ในการตัดสินตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ในกฎหมาย ซึ่งจะนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่ผลการวัดมีค่าเกินเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ลดปัญหามิให้เกิดข้อพิพาท และตำรวจสามารถบังคับใช้งานได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม
พันตำรวจเอกชัยณรงค์ ทรัพยสาร ผู้กำกับการกอง 5 กองบังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า บก.จร. ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตั้งแต่ปี2546 แต่เนื่องจากมีการโยกย้าย สับเปลี่ยน หมุนเวียนกำลังการปฏิบัติงานทุกปี ดังนั้นการจัดการฝึกอบรมในครั้งนี้จึงเป็นการทบทวนความรู้ ความเข้าใจ วิธีการ ขั้นตอนการตรวจวัดระดับเสียงและการออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะเสียงดังเกินมาตรฐาน ทั้งนี้ บก.จร. มีความพร้อมเรื่องเครื่องมือตรวจวัดระดับเสียงจากยานพาหนะ ซึ่งได้รับการสอบเทียบจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ในการตั้งด่านตรวจนั้น บก.จร. จะต้องลงพื้นที่ร่วมกับ คพ. เพื่อให้ช่วยดูแลและทำความเข้าใจกับประชาชน
ทั้งนี้ คพ. มีแผนงานที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพในเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานครในระยะต่อไป พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือท่านเจ้าของรถให้ใช้รถที่ผลิตและมีอุปกรณ์ส่วนควบหรือท่อไอเสียในสภาพเดิมจากโรงงานเพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาด้านเสียงดังรบกวนเนื่องจากยังคงมีการร้องเรียนกรณีเสียงดังจากการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งอยู่มาก
สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียด ค่ามาตรฐาน และวิธีการตรวจวัดระดับเสียงของรถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยดาวน์โหลดคู่มือการตรวจวัด ระดับเสียงของรถยนต์และคู่มือการตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์ได้ทางเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ.-สำนักข่าวไทย