แจ้งข้อหากู้ภัย ยกพวกวิวาทจนมีผู้เสียชีวิต

บช.น. 20 เม.ย.- ตำรวจเดินหน้าดำเนินคดีอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยที่ร่วมก่อเหตุยกพวกตีกันกลางเมือง จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย พร้อมเตรียมหาแนวทางปัองกันเหตุในอนาคต


พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัย 2 แห่ง (มูลนิธิสยามรวมใจ กับ มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ) ยกพวกทะเลาะวิวาทกันบริเวณถนนเกษมราษฎร์ หน้าห้างโลตัส สาขาพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย เมื่อช่วงตี 1 ของวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา จนมีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปอเต็กตึ้งถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 3 คน ว่าตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้แบ่งดำเนินคดี ผู้ก่อเหตุจำนวน 4 คดี คือ คดีฆ่าผู้อื่นผู้โดยเจตนา ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยายหลักฐาน เพื่อระบุตัวผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย โดยขณะนี้ยังไม่มีพยานคนใดให้การยืนยันตัวบุคคล ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีกี่กระบอกนั้นอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ คดีที่ 2 เป็นคดีมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยมีอาวุธเพื่อทำร้ายร่างกายผู้อื่นตอนนี้ โดยเป็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่าย ขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลไปแล้ว 9 คน ซึ่งได้มีการแจ้งข้อหาและให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปแล้ว

คดีที่ 3 เป็นคดีต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายร่างเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ มีผู้อยู่ในข่ายกระทำความผิด 3 คน สามารถพิสูจน์ทราบดำเนินคดีไปแล้ว คน และคดีที่ 4 เป็นคดีแจ้งความเท็จเรื่องการเกิดอุบัติเหตุลวงในคืนดังกล่าว ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน นอกจากนี้ตำรวจเตรียมดำเนินคดีข้อหาจราจรฐานจอดรถกีดขวางช่องทางจราจร


ซึ่งสัปดาห์นี้ตำรวจจะเน้นการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุส่วนสัปดาห์หน้าจะเชิญมูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อกำหนดแนวทางไม่ให้เกิดเหตุการเช่นนี้อีก

ด้านพันตำรวจเอกดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ กล่าวว่า หลังจากจับกุม แจ้งข้อหา และสอบสวนปากคำแล้ว พนักงานสอบสวน ได้อนุญาตให้ประกันตัวนายธีระชัย บัวผันสระน้อย, นายปรีชา จันทร์แสง, นายวีระศักดิ์ วงษ์ศรี และนายคุณากร ขวานทอง ไปในชั้นพนักงานสอบสวนโดยตีเงินประกัน คนละ 30,000 บาท  พร้อมเงื่อนไขห้ามไปก่อเหตุซ้ำอีก

ส่วนการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ฝ่ายมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พนักงานสอบสวนจะยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลแขวงพระนครใต้วันพรุ่งนี้ จำนวน 5 คนก่อนในชั้นต้น ส่วนของมูลนิธิสยามรวมใจ ก็อาจมีการขอหมายจับเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน


มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจพิสูจน์คราบเขม่าดินปืนที่มือทั้ง 2 ข้าง และตามร่างกายของนายพัทธนันท์  ชาติไทย และนายจักรกฤษณ์ ดวงรัตน์มาลี ผู้ต้องหา 2 คนสุดท้ายที่ควบคุมตัวได้ โดยผลการตรวจพิสูจน์ไม่เป็นที่เปิดเผย

สำหรับเมื่อวานนี้ตำรวจได้ใช้กำลังปฏิบัติการตรวจค้นอาวุธจากบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยไปแล้ว 10 จุด แต่ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจค้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง