เดนมาร์ก 25 ธ.ค.-อุตสาหกรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่สร้างรายได้ให้เดนมาร์กปีละหลายพันล้านบาท และเป็นที่ต้องการในหลายประเทศเป็นสินค้าชนิดใด? ไปชมในสกู๊ปสีสันต่างประเทศ
ที่นี่คือฟาร์มต้นคริสต์มาสอาร์โบดาเนีย ในเมืองลุนด์บี ห่างจากกรุงโคเปนเฮเกน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 80 กิโลเมตร คนงานกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมต้นคริสต์มาส 500,000 ต้น ไว้ให้ลูกค้าจากทั่วยุโรป ฟาร์มแห่งนี้อยู่บนพื้นที่ราว 6,875 ไร่ ของเกาะซีแลนด์ ทางภาคใต้ของเดนมาร์ก
ไมเคิล ชนอร์ ผู้บริหารฟาร์มอาร์โบดาเนีย บอกว่า ฟาร์มมีเวลาจัดเตรียมต้นคริสต์มาสราว 10 เดือน ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนก็จะเริ่มตัดต้นคริสต์มาส และต่อเนื่องไปราว 4-5 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็เป็นงานขายหน้าร้าน ซึ่งจะมีลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อต้นคริสต์มาส
ฟาร์มอาร์โบดานิเนียเชี่ยวชาญในเรื่องต้นเฟอร์นอร์ดมานน์ ซึ่งตั้งชื่อตามอเล็กซานเดอร์ ฟอน นอร์ด-มานน์ นักพฤกษศาสตร์ชาวฟินแลนด์ในสมัยศตวรรษที่ 19 ผู้ค้นพบต้นเฟอร์ชนิดนี้
เดนมาร์กปลูกต้นคริสต์มาสราวปีละ 11.5 ล้านต้น และส่งออกราว 9.5 ล้านต้น แหล่งตลาดใหญ่สุด ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมต้นคริสต์มาสของเดนมาร์กคึกคักมากที่สุด
ช่วงทศวรรษหลังปี 2543 หลายประเทศในภูมิภาคนี้หันมาปลูกต้นคริสต์มาสกันมากขึ้น ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ ก่อนเกิดวิกฤติการเงินปี 2551 อุตสาหกรรมต้นคริสต์มาสของเดนมาร์กรุกเข้าไปยังตลาดยุโรปตะวันออก แต่หลังเกิดวิกฤติการเงิน แม้ลูกค้ายังคงต้องการต้นคริสต์มาส แต่ก็ไม่มีกำลังซื้อ และยิ่งเมื่ออังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ก็ยิ่งทำให้ค่าเงินผันผวน ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต้นคริสต์มาสของเดนมาร์ก ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง ทำให้พ่อค้าในเดนมาร์กขายสินค้าไม่ได้ราคาเท่ากับเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ดี ชนอร์ เชื่อว่า อีกไม่นานค่าเงินก็จะมีเสถียรภาพ และคนอังกฤษก็ยังต้องการต้นคริสต์มาสจากเดนมาร์ก แม้จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย.-สำนักข่าวไทย