“อนุทิน” ห่วง ปชช.เดินทางสงกรานต์ หากเจ็บป่วยสิทธิ UCEP/บัตรทอง พร้อมดูแล

กรุงเทพฯ 11 เม.ย. – “อนุทิน” ห่วงใยประชาชนสิทธิบัตรทองเดินทางสงกรานต์ หากเจ็บป่วยสิทธิ UCEP/บัตรทอง พร้อมดูแล


“อนุทิน” ห่วงใยประชาชนสิทธิบัตรทองเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติเข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ ตามนโยบาย UCEP ส่วนกรณีเจ็บป่วยไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่จำเป็นต้องรับการรักษา รวมถึงเจ็บป่วยทั่วไปใช้บริการ “ปฐมภูมิ 30 บาทรักษาทุกที่” ส่วนกรณีติดเชื้อโควิด-19 เข้าข่ายกลุ่มเหลือง/แดง ใช้สิทธิ “UCEP Plus” และกลุ่มสีเขียวรับบริการ “เจอ แจก จบ” หน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ พร้อมแนะประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เน้นย้ำเดินทางอย่าลืม “บัตรประชาชน”

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงมีวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2565 เมื่อรวมวันหยุดราชการเสาร์และอาทิตย์ รวมเป็น 5 วัน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งจำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านหรือเยี่ยมเยียนครอบครัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง” หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ในการเข้ารับบริการแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้


  1. กรณีเจ็บป่วยระดับฉุกเฉินวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด
  2. กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ระดับฉุกเฉินวิกฤติ หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น สามารถเข้ารับบริการ “ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” หรือ “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายยกระดับบัตรทอง ที่ได้ขยายบริการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 โดยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิในระบบบัตรทองที่อยู่ใกล้ที่สุด เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเหมือนในอดีต

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 และอยู่นอกพื้นที่หน่วยบริการประจำนั้น หากมีอาการเจ็บป่วยรุนแรง โดยอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus เพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ได้ และในกรณีที่มีอาการไม่มาก เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเขียว ก็สามารถเข้ารับบริการ “ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน” หรือ “เจอ แจก จบ” ในหน่วยบริการที่อยู่ใกล้ได้ ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนอกจากบริการที่โรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการนี้ได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมได้เช่นกัน

“การเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในช่วงของการเดินทางอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการใช้สิทธิบัตรทอง นอกจากเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว ควรศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการเข้ารับบริการหากมีเหตุจำเป็น เพื่อความไม่ประมาท ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหอบหืด เป็นต้น ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรค เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวย้ำว่า ด้วยโรคโควิด-19 ขณะนี้ที่มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก รวมถึงผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากการคาดการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์นี้ ดังนั้น ขอประชาชนลดการเดินทางไปต่างจังหวัด ขอให้เป็นผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมกันนี้ให้ระมัดระวังดูแลและป้องกันตนเองและคนที่เรารัก ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่อย่างน้อย 30 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ การลดความเสี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และการเว้นระยะห่าง เป็นต้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงได้ อยู่ที่ความร่วมมือของคนไทยทุกคน


ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ ทั้งไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5

กทม.คาดสัปดาห์หน้าค่าฝุ่นเป็นสีส้ม ขอภาครัฐ-เอกชน WFH 20-21 ม.ค.68

กทม. ประกาศขอความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน WFH 20-21 ม.ค.68 คาดค่าฝุ่นสัปดาห์หน้าเป็นสีส้ม มีอัตราระบายลมต่ำ ด้านผู้บริหารโรงเรียน สั่งเปิด-ปิดได้ตามหลักเกณฑ์และดุลยพินิจ

ข่าวลือไทยไม่ปลอดภัย

นายกฯ ถกเรียกความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกเรียกความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย หลังมีข่าวลือ ปั่นกระแสความไม่ปลอดภัย พร้อมคุยหากประเทศไหนมีความกังวล