ลวีฟ 9 เม.ย. – ยูเครนเรียกร้องขออาวุธเพิ่มและขอให้ประชาคมโลกใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรุนแรงกว่าเดิม หลังจากที่ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า ยิงขีปนาวุธโจมตีสถานีรถไฟแห่งหนึ่งที่แออัดไปด้วยสตรี เด็กและคนชราที่กำลังจะเดินทางหลบหนีภัยการโจมตีของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเรียกการโจมตีที่เมืองครามาทอสก์ ในแคว้นโดเนสตก์ทางตะวันออกของประเทศว่าเป็นการจงใจโจมตีพลเรือน นายเซเลนสกี กล่าวในคลิปวิดีโอ ที่โพสต์เผยแพร่เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า เขาคาดหวังว่า ทั่วโลกจะตอบโต้อยางรุนแรงต่อการก่ออาชญากรรมสงครามนี้ เขากล่าวด้วยว่า ความล่าช้าในการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน หรือ การปฏิเสธที่จะจัดส่งอาวุธให้ยูเครน สามารถมองได้อย่างเดียวว่า นักการเมืองที่ไม่เห็นด้วยเรื่องนี้ ต้องการช่วยรัสเซียมากกว่ายูเครน พร้อมกันนั้น เขาเรียกร้องให้ใช้มาตรการห้ามนำเข้านำมันจากรัสเซียและให้ตัดธนาคารของรัสเซียทุกแห่งจากระบบการเงินของโลก
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวผ่านสำนักข่าวอาร์ไอเอ ของรัสเซียว่าขีปนาวุธที่ยิงไปที่สถานีรถไฟมีใช้แต่ในกองทัพของยูเครนและกองทัพรัสเซียไม่ได้มีเป้าหมายการโจมตีที่เมืองครามาทอสก์แต่อย่างใด นายกเทศมนตรีเมืองครามาทอสก์ประมาณการว่า มีประชาชนราว 4,000 คน อยู่ที่สถานีรถไฟในขณะที่ถูกโจมตี สหรัฐ สหภาพยุโรปและอังกฤษ ประณามเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นางอัวร์ซูลำ ฟ็อน ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กำลังเยือนกรุงเคียฟของยูเครน เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับยูเครนและเพื่อเร่งกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน.-สำนักข่าวไทย