กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – “นิพนธ์” เผยกรมที่ดินเพิกถอน น.ส. 3 ก. “แม่ธนาธร” แล้ว หลังพบรุกป่าจริง ชี้เจ้าตัวมีสิทธิฟ้องศาลปกครองได้ ยืนยันสอบตามหน้าที่และกฎหมาย
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ในพื้นที่ ต.ด่านทับตะโก ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 59 ฉบับ เนื้อที่รวม 2,111-1-69 ไร่ ที่ได้ออกเมื่อปี 2521 ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่า เมื่อมีการเพิกถอนหนังสือ น.ส. 3 ก. แล้ว นางสมพร ในฐานะเจ้าของที่ดิน ก็มีสิทธิที่จะไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อพบว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนจริงก็ต้องมีการเพิกถอน ซึ่งกรมป่าไม้ และกรมพัฒนาที่ดิน ยืนยันว่าอยู่ในแนวเขตป่าถาวรจริง ดังนั้น กรมที่ดินต้องมีการเพิกถอนตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ ถนอมกิตติ รองอธิบดีกรมที่ดิน ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมที่ดิน ลงนามคำสั่งวันนี้ (29 มี.ค.) เรื่อง การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รวมถึงนายธนาธร และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ถาวร อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 59 ฉบับ เนื้อที่รวม 2,111-1-69 ไร่ ระบุว่า น.ส. 3 ก. เลขที่ 153 – 159 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 7 ฉบับ ออกเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส. 3 ก. โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดิน ตามมาตรา 58, 58 ทวิ วรรคสอง (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ส่วน น.ส. 3 ก. เลขที่ 704 – 707, 709, 711 – 729, 761, 1121 – 1133, 1135, 1137 – 1144, 1158, 1159 และ 1161 – 1163 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 52 ฉบับ ออกเมื่อปี 2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดินและไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน ตามมาตรา 58, 58 ทวิ วรรคสอง (2) และ (3) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
น.ส. 3 ก. จำนวน 59 ฉบับ ได้ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจากข้อเท็จจริงปรากฏจากการตรวจสอบของกรมพัฒนาที่ดินว่า ตำแหน่งที่ดินของ น.ส. 3 ก. พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร “ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (หมายเลข 85)” ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2512 จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ห้ามดำเนินการในเขตป่าไม้ถาวรและเป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออก น.ส. 3 ก. ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2497) ข้อ 3 ออกตามความในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2497) ข้อ 8 (2) ออกตามความใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น และรองอธิบดีซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมายได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 557 – 558/2564 ลงวันที่ 23 ก.พ. 2564 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว
คณะกรรมการสอบสวนฯ พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 153 – 159 ต.ด่านทับตะโก และ น.ส. 3 ก. 704 – 707, 709, 711 – 729, 761, 1121 – 1133, 1135, 1137 – 1144, 1158, 1159 และ 1161 – 1163 ต.รางบัว เป็น น.ส. 3 ก. ที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจริงสมควรเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) จำนวน 59 ฉบับ
อนึ่ง โดยที่คำสั่งนี้เป็นคำสั่งทางปกครองอันอาจอุทธรณ์ต่อไปได้ หากผู้มีส่วนได้เสียประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมที่ดิน ณ กรมที่ดิน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งตามนัยมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ในกรณีที่มีการอุทธรณ์ หากครบกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ ตามนัยมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2540) ออกตามความใน พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยของผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์หรือไม่ก็ตาม ผู้มีส่วนได้เสียสามารถที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นที่ผู้ฟ้องคดีมีภูมิลำเนา หรือศาลปกครองเพชรบุรีที่มูลคดีเกิดขึ้น หรือส่งคำฟ้องทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองดังกล่าว ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 สั่ง ณ วันที่ 29 มี.ค. 2565
ทั้งนี้ นายธนาธร มีชื่อครอบครอง น.ส. 3 ก. จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 81 ไร่ 3 งาน เป็น น.ส. 3 ก. เลขที่ 158 และ 159 ส่วนที่เหลือเป็นของนางสมพร และ น.ส.ชนาพรรณ. – สำนักข่าวไทย