จี้เอาผิดใช้ไม้ผิดสเปกสร้างสภาฯ

รัฐสภา 28 มี.ค.-“วัชระ” จี้เอาผิดสร้างสภาใหม่กรณีชิโน-ไทยใช้ไม้ผิดสเปก ฃัดการปฏิบัติหน้าที่ของ “พรพิศ” เตรียมส่งเรื่องให้ “ชวน-ป.ป.ช.” ฟันต่อ


นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ได้ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกรณีมีการกระทำที่ส่อถึงการกระทำความผิดทางอาญา แพ่ง วินัยและละเมิดในการไม่ปฏิบัติตามสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกี่ยวกับไม้ในการก่อสร้างและตกแต่งอาคาร ซึ่งบริษัท ซิโน -ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญา และขอสอบถามพฤติกรรมของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จากการที่ตนได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งข้อกำหนดในสัญญาก่อสร้างระบุให้ผู้รับจ้างใช้ไม้ชนิดตะเคียนทองปูพื้น แต่ปรากฏผลการพิสูจน์จากกรมป่าไม้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์ตัวอย่างไม้ ปรากฏว่าเป็นไม้พะยอม

“ไม่ใช่ไม้ตะเคียนทองตามข้อกำหนดในสัญญาก่อสร้าง ซึ่งการใช้ไม้พะยอมปูพื้นแทนไม้ตะเคียนทอง เป็นเหตุให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ว่าจ้าง) ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เนื่องจากคุณภาพของไม้ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาก่อสร้าง และมีคุณภาพต่ำกว่าที่กำหนด ประกอบกับได้จ่ายเงินซึ่งได้มาจากงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศให้แก่ผู้รับจ้างไปแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 11,000 ล้านบาท จากจำนวนเงินทั้งสิ้น 12,280 ล้านบาท การกระทำดังกล่าวครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีจึงมิใช่การที่ยังไม่ได้รับมอบงานจากผู้รับจ้าง แต่เป็นความผิดทางอาญาสำเร็จแล้ว” นาย วัชระ กล่าว


นายวัชระ กล่าวว่า ต้องมีผู้รับผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 บัญญัติให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 บัญญัติให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง รวมทั้งมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาและเห็นชอบการประเมินเลื่อนเงินเดือน และลงโทษข้าราชการ พนักงานราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่กระทำความผิดทางวินัย จึงเป็นหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายในฐานะเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องสืบหาและลงโทษข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่กระทำความผิดดังกล่าว

“ต้องสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลภายนอกที่กระทำความผิดต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอย่างเคร่งครัด อย่าได้ละเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และอื่น ๆ ขณะเดียวกันขอสอบถามการปฏิบัติหน้าที่ของนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรณีดังต่อไปนี้ 1.ตามที่มีข่าวว่าท่านเคยประชุมร่วมกับข้าราชการการเมือง ข้าราชการสภาฯ และเอกชน เรื่อง การขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาครั้งที่ 5 ว่าจะไม่ขยายเวลาการก่อสร้างแต่จะช่วยเรื่องค่าปรับ จริงหรือไม่” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวว่า 2.คณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีมติ 6 ต่อ 2 ไม่อนุมัติให้ขยายสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ครั้งที่ 5 แต่ท่านแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า “คณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติ 6 ต่อ 3 ไม่อนุมัติให้ขยายสัญญา” ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเพราะเหตุใดจึงแถลงข่าวเช่นนั้น 3.ท่านบอกกล่าวกับนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกรัฐสภาในวันไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เรื่องการตรวจสอบการทุจริตสภาฯ ว่า “ให้เบา ๆ หน่อย” นั้นหมายความว่าอย่างไร


“4.ท่านสั่งให้ข้าราชการสภาฯ รายงานท่านว่า “หาก ส.ส.วิลาศเข้าสภาฯ ไปพบใครในสภาฯ ให้รายงานท่านและให้ส่งภาพ หรือกล้องวงจรปิดรายงานท่านว่า ส.ส.วิลาศไปหาใครที่ไหน” เป็นความจริงหรือไม่ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายข้อใด เป็นการละเมิดสิทธิของอดีตสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ 5.ท่านพูดจาเชิงข่มขู่หรือกดดันข้าราชการประจำผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านกรณีการตรวจสอบการทุจริตสภาฯ หรือไปเป็นพยานศาลเป็นความจริงหรือไม่” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายต่อไปอย่างรวดเร็วที่สุด และจะได้รายงานพฤติกรรมของนางพรพิศให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบเพื่อวินิจฉัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง