ปราจีนบุรี 22 มี.ค.- ผอ.สำนักพุทธฯ จ.ปราจีนบุรี เผยถึงเรื่องเงินสด 10 ล้านของหลวงพ่อเย็น เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ปราจีนบุรี ( ธรรมยุต) ทางสำนักพุทธฯ ไม่เข้าไปก้าวล่วง หากพระภิกษุมรณภาพขณะที่ดำรงสมณเพศ ทรัพย์สินที่พบต้องตกเป็นของวัด กรณีของหลวงพ่อเย็นก็เช่นกัน
เงินกว่า 10 ล้านที่พบในกุฏิหลวงพ่อเย็น หรือพระครูสีตะจิตธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าทรงธรรม ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่มรณภาพยังวุ่นไม่หยุด หลังทางคณะกรรมการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในกุฏิหลวงพ่อ เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) พบว่ามีเงินสดใส่ถุงและวางไว้ตามที่ต่างๆ ในห้องมากกว่าสิบล้านบาทและวันนี้เข้าตรวจสอบต่อ มีคนพูดกันว่ามีการเข้าไปขโมยเงินในกุฏิก่อนหน้าและยักย้ายถ่ายเท รวมถึงปล่อยข่าวว่าน่าจะมีเงินมากกว่า 40 ล้านบาท
พระครูโสภณธรรมวินิจ รักษาการเจ้าอาวาส ยืนยันตรวจสอบพบเงินแค่ 10,661,150 บาท ซึ่งทางคณะกรรมการนำไปฝากธนาคารแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ว่ามีถึง 40 ล้านบาท อย่างที่พูดกัน เพราะจากการตรวจสอบเมื่อวานพบเงินเพิ่มอีกเพียง 70,000 กว่าบาทเท่านั้น นอกจากนี้ก็มีสังฆทานซึ่งก็เสียหายใช้ไม่ได้ ส่วนเรื่องการจัดการเงินที่เจอนั้น ทางพระผู้ใหญ่จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลช่วยเหลือ สำหรับเงินที่พบตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาไปทำอะไร
ขณะที่นายณัฐคม โตภัทรกุล ผญบ.หมู่ 1 ต.ท่าตูม เผยว่าเรื่องที่มีการพูดกันว่ามีเงินมากถึง 40 ล้านบาท บางคนยังบอกด้วยว่า มีการเข้าไปงัดแงะเพื่อขโมยทรัพย์สินเงินทอง เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้เพราะวันแรกที่เข้าไปตรวจสอบในกุฏิ มีทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ รวมทั้งพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่รักษาการเจ้าอาวาสแต่งตั้งเข้าไปตรวจสอบ ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้โดยพลการ
ส่วนเรื่องจำนวนเงินดังกล่าวที่หลายคนกังวลว่าจะตกเป็นของใครเพราะทาง หลวงพ่อเย็นท่านยังมีพี่น้องร่วมบิดามารดา อีก 5 คน และหลานๆ ที่ทุกคนอาจมีสิทธิ์ได้ในทรัพย์สินในฐานะทายาทนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นางสาววารินทร์ สิกขชาติ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปราจีนบุรี ทางโทรศัพท์ ซึ่งเปิดเผยเรื่องทายาทที่จะได้รับทรัพย์สินของหลวงพ่อเย็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ปราจีนบุรี ( ธรรมยุต) ที่จะดำเนินการเอง ทางสำนักพุทธฯ ไม่ได้เข้าไปก้าวล่วง แต่ให้ข้อสังเกตว่า หากพระภิกษุมรณภาพในขณะที่ยังดำรงสมณเพศ ทรัพย์สินที่พบต้องตกเป็นของวัดแต่ถ้าหากพระภิกษุได้ทำพินัยกรรมไว้ให้ใครบุคคลผู้นั้นจึงจะมีสิทธิ์รับ กรณีของหลวงพ่อเย็นนั้น ทรัพย์อื่นๆ รวมทั้งเงินสดที่พบต้องตกเป็นของวัดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย