ปารีส 21 มี.ค.- ฝรั่งเศสแจ้งพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 90,000 คนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จาก 7 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสั่งยกเลิกมาตรการทางสาธารณสุขส่วนใหญ่ ก่อนที่ฝรั่งเศสจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเมษายน
ฝรั่งเศสแจ้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงจำนวน 81,283 คน ทำให้ยอดเฉลี่ยต่อวันในช่วง 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 89,002 คน เทียบกับ 60,000 คนเศษในช่วง 7 วันก่อนหน้านั้น ขณะที่ยอดผู้ป่วยต่อประชากร 100,000 คนก็แตะระดับสูงสุดนับจากวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ส่วนยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 24 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 140,900 คน
รัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ที่หวังจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 ประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม โดยอ้างว่าแนวโน้มการติดเชื้อดีขึ้นแล้ว ชาวฝรั่งเศสไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในร่มอีกต่อไป ยกเว้นบนรถโดยสารสาธารณะ โรงพยาบาลและสถานพยาบาล และยกเลิกการใช้บัตรผ่านวัคซีนในการเข้าสถานที่บางแห่ง เช่น บาร์ โรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ดี อัตราการเข้าโรงพยาบาลของผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเพียงร้อยละ 1.7 ต่อสัปดาห์ น้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ บ่งชี้ว่าแนวโน้มอาจเปลี่ยนไปแล้ว
ฝรั่งเศสจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันที่ 10 เมษายน หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงข้างมากก็จะมีการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 24 เมษายน ประธานาธิบดีมาครงวัย 44 ปีที่จะครบวาระสมัยแรก 5 ปี ในวันที่ 13 พฤษภาคม ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ว่าจะลงเลือกตั้งอีกสมัย จากนั้นจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาแบบเขตเดียวคนเดียวจำนวน 577 คนในวันที่ 12 มิถุนายน หากเขตนั้นไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด โดยที่ต้องได้เสียง 1 ใน 4 ของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ก็จะมีการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 19 มิถุนายน.-สำนักข่าวไทย