“ชัยวุฒิ” ชี้นายกฯ ให้เกียรติทุกพรรค เสียงรัฐบาลยังมั่นคง

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – “ชัยวุฒิ” ย้ำ เสียงรัฐบาลยังมั่นคง ชี้นายกฯ ให้เกียรติทุกพรรคการเมือง มองนัดพรรคเล็กกินข้าว 17 มี.ค.นี้ ไม่ได้เช็กเสียงก่อนศึกซักฟอก มั่นใจ “พล.อ.ประวิตร” เอาอยู่ เคลียร์ปัญหาทุกพรรคได้ราบรื่น

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเสียงของรัฐบาลหลังนายกรัฐมนตรีนัดกินข้าวกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เท่าที่ประเมินเสียงของรัฐบาลยังมั่นคงพอที่จะขับเคลื่อนงานไปได้ไม่ได้มีปัญหา ส่วนเรื่องการพูดคุยกินข้าว หรือนัดประชุมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะทำงานร่วมกันต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ขออย่าไปคิดว่าจะเป็นประเด็นปัญหาอะไร ส่วนการนัดรับประทานข้าวระหว่าง นายกรัฐมนตรี กับ พรรคหัวหน้าร่วมรัฐบาลขนาดเล็กในวันที่ 17 มี.ค.นี้ นั้น นายชัยวุฒิ มองว่า นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคที่มาทำงานการเมืองร่วมกัน คงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ต้องมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งการนัดพูดคุยกินข้าวก็เป็นเรื่องปกติ และที่ผ่านมา ก็เคยทำเป็นระยะอยู่แล้ว


เมื่อถามว่า การนัดรับประทานอาหารของนายกรัฐมนตรีกับพรรคเล็กร่วมรัฐบาลเป็นการเตรียมการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คงยังไม่ถึงเวลาจะพูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฝ่ายค้านก็ยังไม่ได้ยื่นญัตติ เมื่อถึงเวลาคงจะพูดคุยกันอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าการนัดกินข้าวน่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการทำงานแก้ปัญหาให้บ้านเมืองมากกว่า

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย นัดกลุ่มพรรคเล็กกินข้าวยังแสดงให้เห็นว่าคนที่ดูแลและกุมเสียงพรรคเล็กยังเป็น ร.อ.ธรรมนัส นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส กับ พรรคเล็กมีความสนิทคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร และน่าจะเป็นสิ่งที่ดีได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจะได้ช่วยกันทำงานอย่างราบรื่น ซึ่งมองว่าเสถียรภาพของรัฐบาลยังดีอยู่ อีกทั้งยังไม่มีใครพูดว่าจะไม่สนับสนุนรัฐบาลหรือมีปัญหาอะไรในทางการเมือง


นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องขับเคลื่อนปัญหาด้านเศรษฐกิจ เพราะนอกจากเรื่องโควิด-19 ยังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งกระทบกับราคาสินค้าและราคาน้ำมัน ค่าครองชีพประชาชนก็สูงขึ้นถือเป็นปัญหาใหญ่ รวมถึงการที่หลายประเทศทั่วโลกประสบปัญหาเช่นนี้ก็ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ประเทศไทยก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือนร้อน รัฐบาลก็ต้องดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน คงไม่มีเวลามานั่งทะเลาะกัน หรือเอาเรื่องการเมืองมาสร้างเงื่อนไขที่ทำให้รัฐบาลทำงานไม่ได้

“ส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ น่าจะเป็นกาวใจในการเคลียร์กับทุกพรรคได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ตนเชื่อมั่น พล.อ.ประวิตร ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยกับทุกพรรคมาตลอด เพราะเป็นแกนนำของรัฐบาล ที่จะเคลียร์ปัญหาต่างๆให้จบอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่กระทบกับเสรีภาพของรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ก็เอาอยู่อยู่แล้ว”นายชัยวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว