12 มี.ค. – เตรียมเปิดบ้าน “สรพงศ์ ชาตรี” ใน อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน และเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวของคนที่มีชื่อเสียงของ อ.มหาราช รวมทั้งปราชญ์ชาวบ้าน
อาลัย “สรพงศ์ ชาตรี” ศิลปินแห่งชาติ
เริ่มตั้งแต่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ครอบครัวและเพื่อนในวงการบันเทิงเดินทางมาร่วมเคลื่อนศพ “สรพงศ์ ชาตรี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักแสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พุทธศักราช 2551 หลังเสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งปอด ในวัย 72 ปี ไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยเวลา 14.00 น. รถตู้สีขาวได้พาร่างของสรพงศ์ ชาตรี ออกจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
จากนั้นครอบครัวของสรพงศ์ ชาตรี นำโดย ดวงเดือน จิไธวงศ์ ภรรยา เป็นผู้นำขบวน โลงไม้สักที่ภายในบรรจุร่างของสรพงศ์ เข้ามาภายในบริเวณศาลา 11 วัดเทพศิรินทราวาสฯ เพื่อทำพิธีรดน้ำศพ ในเวลา 15.00 น. ท่ามกลางความอาลัยของบรรดาครอบครัว บุคคลใกล้ชิด ดารานักแสดงที่เคยร่วมงาน และแฟนคลับ ที่ทยอยเดินทางมาร่วมพิธี
ขณะที่ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ นางเอกคู่ขวัญของสรพงศ์ เปิดเผยหลังร่วมพิธีรดน้ำศพว่า ทราบอาการป่วยของสรพงศ์มาเกือบเดือนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสไปเยี่ยม เนื่องจากมีการระบาดของโควิด ได้แต่ติดตามอาการจากเพื่อนในวงการ
ตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ก้าวแรกในวงการบันเทิง ได้รู้จักกับสรพงศ์ ชาตรี ที่เป็นเหมือนพี่ชาย เป็นเพื่อน เป็นครู ที่คอยสั่งสอน และเคยผ่านการเฉียดตายด้วยกันมาหลายครั้งระหว่างทำงาน เช่น รถตกเหวที่ จ.เชียงราย พร้อมให้กำลังใจครอบครัวให้สู้ต่อไป และอยากให้ทุกคนเก็บความทรงจำที่มีต่อสรพงศ์เอาไว้ เพราะเป็นบุคคลที่น่าเอาเป็นตัวอย่าง
ด้าน ขวัญ พิมพ์อัปสร ลูกสาวของสรพงศ์ เปิดใจว่า คุณพ่อไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง และเป็นคนแข็งแรงมาก คิดว่ารักษาแล้วจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม เพราะช่วงแรกคุณพ่อเหมือนคนป่วยนิดหน่อย จนเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงและเดินไม่สะดวก และตั้งแต่โควิดไม่ได้บอกใครให้มาเยี่ยมตามความประสงค์คุณพ่อ คิดว่าคุณพ่อต้องหาย กำลังใจดีตลอด แข็งแรงทั้งร่างกาย จิตใจ วินาทีสุดท้ายคุณพ่อก็จากไปด้วยรอยยิ้ม
โดยในเวลา 17.00 น. มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ จากนั้นเวลา 19.00 น. มีการสวดพระอภิธรรม โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ไปจนถึงวันที่ 17 มีนาคม 65 ก่อนที่ทางครอบครัวจะบรรจุร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ขณะที่งานพิธีศพครั้งนี้ ทางครอบครัวสรพงศ์ ชาตรี ของดรั พวงหรีด ไว้อาลัย แต่ขอเชิญชวนให้ร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมป์แทน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่าวยที่ขาดแคลนและด้อยโอกาส และยังเป็นการร่วมทำบุญกับพระเอกคนดังเป็นครั้งสุดท้าย
เตรียมเปิดบ้าน “สรพงศ์” เป็นพิพิธภัณฑ์
ส่วนที่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านเกิดสรพงศ์ ชาตรี เตรียมเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน โดยนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือนายก อุ๊ นายก อบต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พาผู้สื่อข่าวชมโปสเตอร์ภาพยนตร์เก่าที่สรพงศ์ ชาตรี แสดงจำนวนกว่า 500 เรื่อง
ส่วนใหญ่เป็นโปสเตอร์เก่าที่เก็บมานานมาก และนำมามอบไว้ให้ที่บ้านของยายชั้น เทียมเสวต พี่สาวของสรพงศ์ เก็บเอาไว้ เนื่องจากได้ขออนุญาตกับสรพงศ์ และญาติๆ ในการนำบ้านหลังนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ สะสมภาพเก่าและฟังเรื่องราวจากยายชั้น พี่สาวของสรพงศ์ โดยภายในบ้านเต็มไปด้วยภาพเก่าสมัยที่สรพงศ์เข้าวงการใหม่ๆ รวมทั้งภาพของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และหม่อมเจ้าอนุสรณ์ มงคลการ รวมถึงภาพของคนที่สนิทและลูกสาวอยู่บนบ้าน
นายวัชรพงศ์ เปิดเผยว่า มีความสนิทกับสรพงศ์มานานมาก และตั้งใจที่จะทำให้บ้านหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ และเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวของคนที่มีชื่อเสียงของ อ.มหาราช รวมทั้งปราชญ์ชาวบ้าน โดยจะหารือกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ในการพัฒนาและปรับปรุงให้เปิดเห็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน คนที่รู้จักคุ้นเคยก็สามารถมาเที่ยวชมได้ ซึ่งช่วงนี้จะมีภาพจากโปสเตอร์ภาพยนตร์และภาพเก่าในบ้านให้เห็นกัน เพื่อให้ระลึกถึงพระเอกสรพงศ์
สรพงศ์ ชาตรี มีชื่อจริงว่า พิทยา เทียมเศวต ภายหลังเปลี่ยนเป็นกรีพงษ์ เทียมเศวต เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในช่วงปลายยุค 70 ถึงกลางยุค 80 เเละยังคงมีชื่อเสียงในอาชีพการเเสดงมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงเมื่อปี พ.ศ. 2551 สรพงศ์เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ที่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายชื้น กับนางพริ้ว เทียมเศวต จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี
จนกระทั่งลาสิกขาเมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่ออายุได้ 19 ปี และได้พบกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
ชื่อ สรพงศ์ ชาตรี ที่ใช้ในการแสดง ผู้ตั้งให้คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา โดยคำว่า “สร” มาจาก อนุสรมงคลการ, “พงศ์” มาจาก สุรพงศ์ โปร่งมณี (ผู้พามาฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม) และ “ชาตรี” มาจาก ชาตรีเฉลิม.-สำนักข่าวไทย