พระนครศรีอยุธยา 9 มิ.ย.- ประธาน กกต.ยืนยันความพร้อมเดินหน้าเลือก สว.อำเภอ เฟ้นสภาสูง-ไร้ปัญหา ไม่กังวลศาล รธน.รับวินิจฉัย พ.ร.ป.เลือก สว.
เวลา 08.00 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธาน กกต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ในระดับอำเภอ ที่หอประชุมพระพิรุณรำลึกโปรดเกล้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายเดชาธร เชาว์เลขา นายอำเภอพระนครศรียุธยา นางสาวณัฏฐ์อริญ แก้วญาณะสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้สมัครเพื่อคัดเลือกเป็น สว.อยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศ สถานที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่คัดเลือก สว.ในระดับอำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยเห็นว่า การเตรียมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ กกต.และทีมสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ได้เตรียมความพร้อมอย่างดี และไม่มีปัญหาใด ๆ พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติที่ได้ซักซ้อมกันมา และไม่มีข้อกังวลใด ๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพร้อมในการทำหน้าที่
ประธาน กกต.ยังมั่นใจด้วยว่า ด้วยการเลือกผู้สมัครในระดับอำเภอที่จะนำไปสู่การเลือกระดับจังหวัด ก่อนมีการเลือกระดับประเทศต่อไปนั้น จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ พร้อมย้ำว่า ไม่กังวลต่อการรับคำร้องวินิจฉัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา ของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ กกต.ยุติการเลือก สว. เพียงแต่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ดังนั้น กกต.จึงดำเนินการเลือก สว.ตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.แล้ว และยังไม่มีคำสั่งใดมายับยั้ง ดังนั้น กกต.จึงดำเนินการต่อไป
ส่วนข้อร้องเรียกเพิ่มเติมต่อการเลือก สว.นั้น ประธาน กกต.เปิดเผยว่า มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มเข้ามา 2 เรื่อง รวมเป็น 22 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อร้องเรียนเรื่องการจ้างผู้สมัครมาลงสมัคร ซึ่งหากตรวจสอบเบื้องต้น พบพยานหลักฐานก็จะรับคำร้อง เพื่อการไต่สวนตามขั้นตอนต่อไป
จากนั้น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการ เลือกตั้ง สว.ในระดับอำเภอ โดยมีผู้สมัคร 240 ถูกตัดสิทธิเหลือ 214 มารายงานตัว 195 ไม่มารายงานตัว 19 คน. 714.-สำนักข่าวไทย