อิสราเอล 15 มี.ค. – สารคดีโลกวันนี้ ไปชมเทคโนโลยีในการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ของอิสราเอล ที่กำลังพยายามจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านนี้
อิสราเอลเป็นประเทศที่มีแสงแดดจัด แต่การสะสมพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้งานยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับปริมาณพลังงานที่ทั้งประเทศต้องการ ทำให้อิสราเอลเป็นประเทศที่ล้าหลังกว่าอีกหลายประเทศ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลที่ผ่านมาล้วนแต่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก เพราะยังไม่สามารถนำแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ แต่ล่าสุดอิสราเอลตั้งเป้าผลิตพลังงานทดแทนให้ได้ภายในปี 2563 จึงจัดทำโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ขึ้น และคาดว่าในอนาคตอิสราเอลจะขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ได้
โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่นี้ ตั้งอยู่ในทะเลทรายเนเจฟ แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน โดยใช้เทคโนโลยีแตกต่างกัน และจะกลายเป็นแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลเมื่อโครงการแล้วเสร็จภายในปี 2561 ตั้งเป้าผลิตพลังงานไฟฟ้าให้ได้ 310 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเพียงพอใช้ใน 130,000 ครัวเรือน หรือราวร้อยละ 5 ของประชากรของ
ส่วนแรกของโครงการเป็นหอคอยพลังแสงอาทิตย์สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 250 เมตร ซึ่งจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในด้านพลังงานทดแทนของอิสราเอล หอคอยติดกระจกเฮลิโอสแตท 50,000 แผ่นโดยรอบ ซึ่งจะสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังแผงโซลาร์เซลล์เบื้องล่าง แผงพลังงานแสงอาทิตย์จะรวมแสงอาทิตย์ไปยังเครื่องต้มบนยอดหอคอย เพื่อให้ความร้อนแก่น้ำ ทำให้เกิดไอน้ำไปปั่นกังหันและผลิตกระแสไฟฟ้า เทคโนโลยีแบบที่สองที่ใช้ สามารถสะสมพลังงานได้แม้ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปแล้ว และแบบสุดท้ายเป็นการผลิตไฟฟ้าจากการตกกระทบของแสงบนวัตถุที่สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง การนำเทคโนโลยีทั้งสามระบบมาไว้ในโครงการเดียวกันนับเป็นวิธีดำเนินงานอย่างชาญฉลาดของอิสราเอล เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดีของตัวเอง. – สำนักข่าวไทย
