กระทรวงกลาโหม 15 มี.ค.- กลุ่มนปช. หารือปรองดอง มั่นใจรัฐบาลทำสำเร็จ เสนอยกเลิกคำสั่ง ประกาศ ของคสช. และ มาตรา 44 ชี้ อาจเป็นอุปสรรคการสร้างความปรองดอง ด้านผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม เผย 7 พรรค 1 กลุ่มการเมือง เห็นพ้องปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง – เชิญ กปปส.พูดคุย ศุกร์นี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) กล่าวถึงภาพรวมการเสนอข้อคิดเห็นต่อคณะอนุกรรมการ ปยป. ว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ซึ่งนปช.ได้ตอบทุกคำถามของคณะอนุกรรมการ การเข้าพูดคุยในวันนี้ ไม่ใช่เพราะ นปช.เป็นสาเหตุของความขัดแย้ง แต่เพราะกลุ่มนปช.เป็นกลุ่มที่ได้รับผลจากความขัดแย้ง จึงมาให้ความร่วมมือ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเสนอความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองนั้น กลุ่มนปช. เห็นว่า ทุกฝ่ายควรยอมรับความจริง และแสดงเจตนาอย่างบริสุทธิ์ เพื่อผ่านวิกฤตความขัดแย้ง และใช้หลักนิติธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งในส่วนของนปช.ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถึงที่สุดด้วย รวมถึงขอให้มีหลักประกันว่าจะไม่มีเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต เมื่อกระบวนการปรองดองสำเร็จลุล่วง ประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากอำนาจอธิปไตยของประชาชน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอเสนอให้ยกเลิกประกาศระเบียบและคำสั่งต่าง ๆ ของคสช.ทุกฉบับ รวมถึงมาตรา 44 ด้วย เพราะอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งรัฐบาลและคณะกรรมการ ป.ย.ป. มีหน้าที่สร้างความไว้วางใจระหว่างทุกฝ่าย ข้อเสนอทั้งหมดไม่ใช่การกดดันรัฐบาล เพื่อให้ปฏิบัติตาม ซึ่งปลัดกระทรวงกลาโหมแจ้งว่า หลังจากนี้ อาจมีการเชิญให้ความเห็นอีกครั้ง โดยกลุ่ม นปช.พร้อมให้ความร่วมมือ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. มั่นใจว่า กระบวนการปรองดองของปยป. จะสำเร็จ เพราะเห็นความตั้งใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่อัญเชิญพระกระแสรับสั่งที่ให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง สร้างความรัก สร้างความ สุข ความปลอดภัย ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในแผ่นดิน นปช.ก็เห็นด้วยกับรัฐบาล โดยไม่มีการพูดถึงหรือเสนอประเด็นของเรื่องนิรโทษกรรมและการอภัยโทษ
พล.อ.ต.รังสรรค์ เยาวรัตน์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภาพรวมการเข้าให้ข้อคิดเห็นแนวทางสร้างความปรองดองของพรรคการ และกลุ่มการเมือง ต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ในช่วงวันที่ 13-15 มี.ค.60 ว่า มีทั้งหมด 7 พรรค 1 กลุ่มการเมือง คือ พรรคท้องถิ่นไท พรรครักษ์ธรรม พรรคเสรีนิยม พรรคคนไทย พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย พรรคเมืองไทยของเรา พรรรคอนาคตไทย และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) ซึ่งการพูดคุยในวันนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 19 ภาพรวมบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างกันเอง ทุกฝ่ายมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากให้เกิดความปรองดอง มีการเตรียมพร้อมข้อมูลในการมาให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในเชิงสร้างสรรค์
พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวว่า ในประเด็นการเมือง 7 พรรคและ 1 กลุ่มการเมืองเห็นว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม นอกจากนี้ยังเห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ รัฐต้องแก้ปัญหาความยากจน กระจายรายได้ ลดช่องว่างคนรวยคนจน โดยเสนอให้นำระบบสหกรณ์มาใช้ และต้องมีการปฏิรูปกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ในขณะที่สื่อมวลชนต้องสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ เป็นตัวอย่างที่ดี ควรมีการปฏิรูปสื่อ เช่นเดียวกับระบบราชการ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม กฎหมายและรัฐธรรมนูญก็ต้องปฏิรูปเช่นเดียวกัน
ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในส่วนการเข้าให้ข้อคิดเห็นของกลุ่มแนวร่วมประชาธิไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในวันนี้ ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นนิรโทษกรรม การยกเลิกมาตรา 44 หรือคำสั่งและประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แต่อย่างใด นปช.ได้ทำเอกสารส่งให้คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 10 ประเด็น และให้แกนนำเป็นคนพูดในภาพรวมในเวลาที่กำหนดคือ 13.30-16.30 น. ซึ่งนปช.มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเสนอความคิดเห็น เข้าใจว่าอะไรที่เสนอได้ เสนอไม่ได้
“จนถึงวันนี้มีพรรคการเมืองเข้าพูดคุยกับคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 46 พรรค 1 กลุ่มการเมือง ในวันศุกร์นี้จะเชิญ กปปส.มาให้ข้อคิดเห็น หลังจากนั้นจะเชิญภาคประชาสัมคมต่อไป ในส่วนของพื้นที่ภูมิภาค ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นแล้วจำนวน 60 จังหวัด เหลืออีก 17 จังหวัด ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ข้อมูลทั้งหมดจะส่งต่อให้ กอ.รมน.ภาค และคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองมาเข้าร่วมเพียง 46 พรรค จากที่ส่งหนังสือเชิญร่วม 70 พรรค พล.อ.ต.รังสรรค์ กล่าวว่า เนื่องจากบางพรรคไม่พร้อม ส่วนหนึ่งก็ใช้วิธีส่งเอกสารเนื่องจากที่ตั้งพรรคอยู่ในต่างจังหวัด ขณะที่ส่วนหนึ่งได้จดทะเบียนตั้งพรรคแต่ไม่มีกิจกรรมทางการเมืองเลยขอไม่เข้าร่วม .-สำนักข่าวไทย