กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,060 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 318 จุด โดยยังพบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมากที่สุด สำหรับจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 ลำดับแรกคือ เชียงใหม่ ลำพูน และชัยภูมิ ส่วนจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นซึ่งน่าห่วงค่า PM2.5
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) วันที่ 1 มีนาคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,060 จุด เพิ่มขึ้นจากวานก่อน 318 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 301 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 254 จุด พื้นที่เกษตร 248 จุด พื้นที่เขตสปก. 146 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 104 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด
ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุดคือ เชียงใหม่ 110 จุด ลำปาง 92 จุด ชัยภูมิ 66 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนมีการกระจายตัวหนาแน่นขึ้นทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง
สำหรับเช้าวันนี้ (2 มี.ค.) เวลา 9.00 น. คุณภาพอากาศปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 1 มีนาคม 2565 พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 7,912 จุด ตามด้วยภาคเหนือ 7,033 จุด และภาคกลาง 4,550 จุด
จากการตรวจสอบจุดความร้อนของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคพบว่า อันดับที่หนึ่งคือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ 4,212 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 2,479 จุด และอันดับที่ 3 เป็นราชอาณาจักรกัมพูชา 1,743 จุด ข้อมูลจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างน่าเป็นห่วง อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ PM2.5 ในประเทศไทย เนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามาจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวดูแลสุขภาพด้วย.-สำนักข่าวไทย