พรรคเพื่อไทย 28 ก.พ.- “เพื่อไทย” ห่วง สงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลกระทบภาพใหญ่ ทำท่องเที่ยววูบ เศรษฐกิจไทยกระทบหนัก อีกทั้งยังเจอติดเชื้อโอมิครอนพุ่ง ทวงนายกฯ ตอบแนวทางแก้ปัญหาท่องเที่ยว แนะ ปรับแผนการตลาดท่องเที่ยวไทย เร่งยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาท
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองเลขาธิการ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และโฆษกคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มจะยืดเยื้อ ว่าจะส่งผลกระทบทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นสูงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทยและการท่องเที่ยวของไทยด้วย เพราะนักท่องเที่ยวน่าจะเดินทางน้อยลง อีกทั้งการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยมีผู้ติดเชื้อล่าสุดที่รวมถึงผู้ติดเชื้อที่ทดสอบโดย ATK พุ่งสูงถึงวันละกว่า 4 หมื่นรายและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งตนได้อภิปรายตามม. 152 ในสภาเรื่องปัญหาของการท่องเที่ยวแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ชี้แจงใดๆ จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ตอบว่ามีแนวทางและแผนงานจะฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยอย่างไรจากสภาวะที่เป็นอยู่ จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการตลาดสำหรับการท่องเที่ยวอย่างไร และควรจะต้องยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท และเพิ่มเสริมมาตรการต่างๆ ที่ตนได้เรียกร้องมาตลอดได้แล้ว
“อย่าคิดทำอะไรที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาประเทศไทยในภาวะเช่นนี้ และดีใจที่รัฐบาลยอมเปลี่ยนเงื่อนไข Test & Go ไม่ต้องมากักตัวเพื่อตรวจ PCR-Test อีกครั้งในวันที่ 5 หลังจากตรวจวันแรก แต่ให้ตรวจ ATK และส่งผลมาเอง ซึ่งน่าจะสะดวกและสมเหตุสมผลมากกว่า” นายจักรพล กล่าว
นายจักรพล กล่าวว่า ในภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งวิกฤตการณ์สงคราม วิกฤตการณ์ไวรัสโควิด วิกฤตเศรษฐกิจ พลเอกประยุทธ์ จะต้องเตรียมรับมือราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ ราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นทุนของสินค้า และ เป็นต้นทุนของภาคธุรกิจและเป็นค่าใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งประเทศไทยจะต้องจ่ายเงินสูงมากขึ้นเพื่อนำเข้าน้ำมันและก๊าซ นักท่องเที่ยวก็จะเดินทางเข้ามาต่ำกว่าที่คาดเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ การส่งออกของไทยก็จะลดลงจากปัญหาที่เกิดขึ้น หากพลเอกประยุทธ์ ไม่ทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ให้ดี พลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้เลย ประชาชนจะลำบากกันอีกนาน และ เห็นว่าหากนายกรัฐมนตรีประเมินแล้วว่าไม่น่าจะรับมือไหว ไม่ควรจะถ่วงเวลาการแก้ไขปัญหาของประเทศอีกต่อไป ควร ให้คนที่เขามีความรู้ความสามารถจริงๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาจะดีกว่า.-สำนักข่าวไทย