กรุงเทพฯ 18 มี.ค.-โฆษกรัฐบาล ยืนยันรัฐบาลดูแลทุกศาสนาเท่าเทียมกัน และส่งเสริมให้ศาสนิกชนทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เตือนผู้ไม่หวังดีหยุดสร้างกระแสทำลายความสัมพันธ์ศาสนาให้เกิดความแตกแยกเสียหาย
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์ข้อความในโซเชียลมีเดียว่า รัฐบาลอนุมัติงบประมาณจำนวนมาก สร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดหลายจังหวัด พร้อมกับให้เงินเดือนโต๊ะอิหม่าม เดือนละ 18,000 บาท และคณะกรรมการมัสยิดทุกคน แต่ไม่เคยสนับสนุนการสร้างวัด ให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ ว่า รัฐบาลมีหน้าที่อุปถัมภ์ดูแลทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน และส่งเสริมให้ศาสนิกชนทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดังนั้นข้อความที่มีการแชร์ต่อกัน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ จึงขอเตือนผู้ไม่หวังดีหยุดสร้างกระแสบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา ส่วนผู้รับข้อมูลต้องใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร อย่าหลงเชื่อ และไม่ส่งต่อหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยไม่รู้ตัว
“จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายเรื่อง เช่น การสร้างมัสยิดที่ จ.นนทบุรีนั้น เป็นงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ไม่ใช่งบประมาณของรัฐบาลส่วนกลาง ส่วนมัสยิดที่ จ.นครศรีธรรมราช มีการอนุมัติงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้าง ตั้งแต่ปี 2555 โดย ครม.ในขณะนั้น แต่มาแล้วเสร็จในปี 2559 ขณะที่ภาพของโรงเรียนอิสลามขนาดใหญ่บนเขายายเที่ยง แท้จริงแล้วตั้งอยู่ที่เขตลาดพร้าว กทม. นอกจากนี้ อัตราค่าตอบแทนของโต๊ะอิหม่ามที่มีการเผยแพร่ ก็ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน โดยระเบียบ มท.ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม คอเต็บ และบิหลั่น (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2552 กำหนดให้บุคคลดังกล่าวมีค่าตอบแทนระหว่าง 1,000-3,500 บาทต่อเดือน ไม่ใช่ 18,000 บาท ตามที่มีการกล่าวอ้าง” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย