กรุงเทพฯ 21 ก.พ.-รองอธิบดีกรมเจ้าท่าอนุญาต SPRC ปฏิบัติการสูบน้ำมันค้างท่อ ที่เหลืออีก12,000 ลิตร คาดแล้วเสร็จภายใน 11 วัน
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เผยความคืบหน้า การแก้ไขปัญหานำ้มันรั่วไหล ในทะเลจังหวัดระยอง ของบริษัท สตาร์รีไฟแนนซิ่ง จำกัดมหาชน หรือ SPRC รวมถึงการดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย และการฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ว่า สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมัติ เมื่อวันที่ 17-18 ที่มีการพูดถึงประเด็นการแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วในเชิงการดำเนินการไม่ดี จึงขอชี้แจงว่าในประเด็นดังกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ หรือ กปน. ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าปฏิบัติการอย่างเป็นขั้นตอน ตามแผนปฏิบัติการควบคุมมลพิษทางน้ำฯ และมีการสั่งการลงมาทุกวัน
จากการดำเนินการ น้ำมันตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา และมีการรั่วไหลครั้งที่2วันที่ 10 ก.พ.ประมาณ 5 พันลิตร จึงได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทSPRC เพื่อหาแนวทางจัดการท่อและน้ำมันค้างท่อที่เหลืออยู่ไม่ให้รั่วไหลออกมาอีกครั้ง
จากการตรวจสอบพบจุดรั่วไหล 2 จุด จุดแรกบริษัทดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนจุดที่ 2 อยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 เมตร มีลักษณะเป็นแผลยาว 70 เซนติเมตร ปัจจุบันน้ำมันที่ค้างท่อมีอยู่ประมาณ 12,000 ลิตร เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยไม่มีผลกระทบ ทางบริษัทจึงได้ส่งแผนปฏิบัติงานมายังกรมเจ้าท่าตั้งแต่วันที่17 เพื่อให้กรรมการพิจารณาแผนการดำเนินการพร้อมให้ข้อเสนอะแนะ ในการนำน้ำมันค้างท่อออกมาโดยไม่ให้เกิดน้ำมันรั่วไหลเป็นครั้งที่ 3 / เทคนิค แผนการซีลแผลบริเวณท่อ ที่มีความยาว 70 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำมันรั่วซึมโดยจะมีการซีลทับถึง4 ชั้น ซึ่งมีการทดสอบบนฝั่งเพื่อความแม่นยำ และการกำหนดแผนตอบโต้ กรณีมีน้ำมันรั่วไหลออกมา ซึ่งทั้งก่อนปฏิบัติการและระหว่างปฏิบัติการทางบริษัท SPRC จะต้องบันทึกภาพวีดีโอไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานด้วย
ซึ่งวันนี้ทางบริษัทได้ส่งแผนปฏิบัติการฉบับแก้ไขให้สำนักงานเจ้าท่าแล้ว และทางสำนักงานเจ้าท่าระยองก็ได้ส่งหนังสืออนุญาต ให้บริษัทเข้าดำเนินการแล้ว
ส่วนเรื่องการดำเนินการตามข้อกฏหมาย หลังแจ้งความดำเนินคดีไปตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดกับบริษัท
ส่วนการชดใช้ค่ากำจัด และฟื้นฟูเยียวยา ก็เป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะต้องรับผิดชอบตามที่กฏหมายกำหนด ส่วนประเด็นการประกอบกิจการ
กำลังเสนอผู้บริหารพิจารณายกเลิกใบอนุญาต และการรั่วไหลครั้งที่ 2 ทางกรมเจ้าท่าก็ได้ไปแจ้งความเพิ่มเติมแล้ว ในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
สำหรับแผนปฏิบัติการสูบน้ำมันค้างท่อ คาดว่าจะใช้เวลารวมทั้งหมด 11 วัน ทั้งการเข้าไปทำความสะอาดท่อ ซีลแผลของท่อที่มีความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
“ก่อนที่กรมเจ้าท่าจะอนุมัติ ให้บริษัทเข้าปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้มีน้ำมันเล็ดลอดรั่วไหลออกมาเป็นรอบที่ 3 ได้ให้บริษัทจัดทำแผนปฏิบัติงานมานำเสนอ รวมถึงได้มีการประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ มั่นใจเกือบ 99.99% ว่าจะไม่มีเหตุน้ำมันรั่วเป็นรอบที่ 3 หรือหากมีรั่วออกมาก็มั่นใจว่าจะสามารถจัดการได้อย่างทันท่วงที เพราะทางบริษัทได้เตรียมการรับมือเอาไว้แล้ว ทั้งเรือกางบูมจำนวน 20 กว่าลำ รวมถึงเตรียมเรืองสำหรับฉีดสารDispersent เอาไว้แล้ว นอกจากนี้ตลอด 11 วันของปฏิบัติการฯทางบริษัทยังได้ติดตั้งเต๊นดักน้ำมัน บริเวณเหนือ SPM ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ทางกองทัพเรือยังสนับสนุนเครื่องถ่ายภาพใต้น้ำของกองทัพเรือ เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง” รองอธิบดีกรมเจ้าท่ากล่าว.–สำนักข่าวไทย