ผู้ต้องหาทุจริตสหกรณ์ฯรถไฟรับทราบข้อหา

กองบังคับการตำรวจรถไฟ 18 ก.พ.- 16 ผู้ต้องหาทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ 2 พันกว่าล้าน  เข้ารับทราบข้อกล่าวหา


ผู้ต้องหา 16 คน ที่ร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำนวนประมาณ 2,800 กว่าล้านบาท เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ต่อคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจรถไฟผู้ต้องหาดังกล่าว นำโดยนายบุญส่ง หงษ์ทอง อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ และคณะกรรมการสหกรณ์รวม 9 คน ส่วนอีก 7 คน เป็นกลุ่มผู้ต้องหาสนับสนุน เช่น ภรรยา และลูก ที่ร่วมกันนำเงินที่ได้ไปฟอกผ่านทรัพย์สินต่างๆ

การทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2555-2559 นายบุญส่งกับพวก ที่เป็นประธานและคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ รวม 9 คน ได้ทำสัญญากู้เงินกันเอง ค้ำกันเอง ไขว้กันไปมา คนละหลายสัญญา สัญญาละไม่เกิน 15 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,800 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวนอกจากเป็นเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟที่ฝากไว้แล้ว ยังเป็นเงินที่นายบุญส่งได้ชักชวนสหกรณ์พันธมิตรอีก 15 แห่งนำเงินมาฝากไว้ด้วย


แต่ความมาแตกในปี 2560 หลังคณะกรรมการบริหารสโมสรสหกรณ์ออมทรัพย์รถไฟชุดใหม่ เข้ามาบริหารและเห็นความผิดปกติว่ามีการทุจริต จึงแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งใหม่ของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ต่อมาอัยการภาค 1 เสนอให้ สน.นพวงศ์ กองบังคับการตำรวจรถไฟ เป็นผู้ทำคดีเนื่องจากที่ตั้งเดิมของสหกรณ์ดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ดูแลของ สน.นพวงศ์ จึงเป็นที่มาของการที่กองบังคับการตำรวจรถไฟเข้ามาทำคดีภายใต้การบัญชาการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและนำมาสู่ปฏิบัติการยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหาได้ 300 กว่าล้านบาทเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยทรัพย์ที่ยึดได้ มีทั้งเงินสด รถหรู นาฬิกาหรู หมู่บ้านจัดสรร ที่ดินจัดสรร และรีสอร์ท

ตำรวจแบ่งคดีเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ สน.นพวงศ์ กองบังคับการตำรวจรถไฟ ทำร่วมกับ สน.ปทุมวัน ตามคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 438/2564  ในข้อหาร่วมการลักทรัพย์ของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และมีผู้ต้องหาบางส่วนถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์และรับของโจรด้วย ซึ่งวันนี้ผู้องหาทั้ง 16 คนเดินทางมารับข้อกล่าวหา ส่วนคดีฟอกเงินกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นผู้ทำคดี มีผู้ต้องหาเพิ่มมาอีก 2 คน รวมเป็น 18 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง