กรุงเทพฯ 11 ก.พ.-เครือข่ายศูนย์สิทธิผู้บริโภคกรุงเทพฯ ให้กำลังใจ “ศักดิ์สยาม” คัดค้านขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หนุนขนส่งมวลชน กทม.ถูกลงทั้งระบบ
นางสำลี สีละพุก ผู้แทนเครือข่ายศูนย์สิทธิผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าพบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ กรณีกระทรวงคมนาคมคัดค้านขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมร่วมหารือ
นางสำลี กล่าวว่า ขอสนับสนุนกระทรวงคมนาคม ให้ชะลอการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวและขึ้นราคาค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค และยื่นข้อเสนอขอให้ร่วมแสดงจุดยืนและเป็นพลังร่วมกับประชาชนในการคัดค้าน การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้าและกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค อีกทั้งสนับสนุนการกำหนดสัดส่วนของค่าบริการขนส่งมวลชนต่อรายได้ขั้นต่ำของประชาชนต่อวันไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าแรงขั้นต่ำ
นางสำลี กล่าวอีกว่า ขอมีการประกาศนโยบายให้รถไฟฟ้าเป็นบริการขนส่งมวลชนที่ทุกคนต้องขึ้นได้อย่างทั่วถึง สนับสนุนการยกเว้นค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อนของระบบรถไฟฟ้า และจัดระบบตั๋วร่วม ที่สำคัญขอให้ทบทวนสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าทุกเส้นทางในปัจจุบัน และในอนาคต เพื่อศึกษาผลกระทบและกำหนดแนวทางให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องราคาต่อผู้บริโภค
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า กระทรวงคมนาคม มีจุดยืนในการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งกระทรวงฯได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยยึดหลักความถูกต้อง และประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนพึงจะได้รับเป็นลำดับแรก ดังนั้น จะเห็นได้ว่าความเห็นของกระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญกับอัตราค่าโดยสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างยั่งยืนจากปัจจุบันไปสู่อนาคตถึงปี 2602 รวมถึง การกำหนดเงื่อนไขของการเข้าระบบตั๋วร่วมที่ครอบคลุมทุกโครงข่าย และความถูกต้องครบถ้วนของขั้นตอนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ และจะทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยมีปริมาณผู้โดยสารมากขึ้นจากอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม
“กระทรวงคมนาคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรุงเทพมหานครจะพิจารณาทบทวนการดำเนินการให้ครบถ้วน และถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และหลักธรรมาภิบาล ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยมุ่งเน้นที่ประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนและภาครัฐพึงได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไป” นายศักดิ์สยามกล่าว .-สำนักข่าวไทย