ทล.-ทช. ระดมเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมสะพานขาด จ.เชียงราย

กรุงเทพ 15 ก.ย.-“คมนาคม” ขานรับข้อสั่งการนายกฯ มอบหมาย ทล.-ทช. ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เร่งซ่อมแซมสะพานขาด ลุยติดตั้งสะพานเบลี่ย์ พร้อมเคลียร์ถนนหลังระดับน้ำลดบริเวณ “หน้าด่านแม่สาย“ แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ด้าน “สุริยะ” ยังสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเต็มที่


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการถึงสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วม) และดินสไลด์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จึงมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เร่งดำเนินการซ่อมแซมถนน และสะพานขาด พร้อมทั้งฟื้นฟูสายทางที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่ภาวะปกตินั้น

ทั้งนี้ จากข้อสั่งการดังกล่าว กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยได้ดำเนินการซ่อมแซมสะพานขาด ด้วยการติดตั้งงานทอดสะพานเหล็กเบลีย์บนทางหลวงหมายเลข 1338 ขาแหย่ง – ป่าเมี่ยง บริเวณ กม. ที่ 9+650 ทางหลวงหมายเลข 1093 ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง บริเวณ กม. ที่ 80+185 และทางหลวงหมายเลข 1098 ท่าข้าวเปลือก – แก่นใต้ บริเวณ กม. ที่ 18+366 – 18+446


นอกจากนี้ ในบางสายทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและดินสไลด์ และปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว อาทิ ทางหลวงหมายเลข 1 บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สายนั้น ทล. และ ทช. ได้นำเจ้าหน้าที่ดำเนินการล้างทำความสะอาด ขนย้ายสิ่งของ ยานพาหนะ เศษดินโคลนบนสายทางและสะพาน เพื่อคืนสภาพผิวการจราจรให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งได้นำเครื่องจักรเข้าขุดเศษวัชพืชที่ขวางสะพานข้ามน้ำแม่สายแห่งที่ 1 และจ่ายน้ำให้กับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนั้น สามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายใน 1 วัน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงรายยังคงมีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ และบางพื้นที่น้ำลดลงแล้วทำให้มีเศษดินโคลน จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน พร้อมทั้งบูรณะหรือฟื้นฟูสายทางที่ได้รับผลการกระทบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) หรือต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ และสายด่วน ทช. โทร. 1146 . 513 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย