กองบัญชาการป้องกันสาธารณภัยฯ ย้ำจังหวัดเร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้

954กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เน้นย้ำจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน อีกทั้งอนุมัติวงเงินทดรองราชการ (เพิ่มเติม) ใน 9 จังหวัด ๆ ละ 50 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและคล่องตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า  (บกปภ.ช.) กระทรวงมหาดไทย ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีนายชยพล ฐิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ ทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และระนอง โดยมีผู้แทนสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสนก.) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพบก ร่วมประชุม

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามการคาดการณ์ปริมาณฝน พบว่าหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตก โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 8 มกราคม 2560 ซึ่งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ส่วนหน้า ได้เน้นย้ำให้จังหวัดประสานการทำงานกับกองบัญชาการฯ ส่วนหน้า ณ ศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา อย่างใกล้ชิด พร้อมบูรณาการหน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่ เร่งแก้ไขปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์ โดยประสานการระบายน้ำลงสู่ทะเลให้สอดคล้องกับทิศทางการไหลของน้ำและลักษณะทางภูมิศาสตร์ เพื่อควบคุมสถานการณ์อุทกภัยไม่ให้ขยายวงกว้าง รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ทั้งการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ การแจกจ่ายถุงยังชีพ การซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม และระบบการสื่อสารไม่ให้ถูกตัดขาด การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข นอกจากนี้ ได้สั่งการให้จังหวัด สำรวจสภาพปัญหา อุปสรรค และความต้องการขอรับการสนับสนุนการช่วยเหลือ ทั้งด้านวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกล ถุงยังชีพ และกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อจัดสรรตามความเหมาะสมอย่างเร่งด่วนต่อไป


789ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน ทำให้หลายจังหวัดประสบอุทกภัยเป็นระลอกที่ 2 และ 3 โดยผลกระทบแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง และสภาพดินที่ชุ่มน้ำอยู่แล้ว จึงเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม โดยขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 จังหวัด รวม 85 อำเภอ 490 ตำบล 3,376 หมู่บ้าน 93 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 252,518 ครัวเรือน  744,422 คน โดยภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำลดลง ยกเว้นจังหวัดพัทลุง ตรัง และชุมพร ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และนราธิวาส ระดับน้ำทรงตัว

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังกรณีมีผู้เสียชีวิตและตรวจสอบพบว่าเป็นการเสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าจัดการศพ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตในทันที รายละไม่เกิน 25,000 บาท กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัวจ่ายเงินช่วยเหลืออีกไม่เกิน 25,000 บาท รวมถึงให้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านการดำรงชีพ พื้นที่การเกษตร ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งสาธารณประโยชน์  โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประสานให้กรมบัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และชุมพร (เพิ่มเติม) จังหวัดละ 50 ล้านบาท อีกทั้งได้อนุมัติให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น หากจังหวัดใดสถานการณ์รุนแรงและขยายวงกว้าง วงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มเติมผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784  ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง