“อนุทิน” เผยยังไล่ออกไม่ได้ ปลัดอำเภอท่าอุเทน หนีคดีตากใบ

ปลัดท่าอุเทน

ทำเนียบ 29 ต.ค.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย ลั่นลงโทษ-ตัดบำเหน็จบำนาญ “ปลัดอำเภอท่าอุเทน” หนีคดีตากใบ หลังคดีหมดอายุความก็กลับมาทำงาน ต้องดูระเบียบ เผยแจ้งลาพักผ่อน ขาดงาน 6 วัน ยังไล่ออกไม่ได้ ยอมรับมีผลกระทบการเติบโต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการกรณีปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีตากใบ กลับไปทำงานหลังคดีหมดอายุความ ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเท่าที่ทราบได้ยื่นหนังสือลาพักผ่อน แต่หลังจากทราบว่าโดนหมายจับ ก็ได้สั่งยกเลิกใบลาดังกล่าว และสั่งให้กลับมารายงานตัว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มา โดยเท่าที่ทราบน่าจะขาดราชการ 6 วัน แต่ตามระเบียบแล้วต้องขาด 15 วัน ถึงจะไล่ออกจากราชการได้ ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรม ว่าเพราะเหตุใดถึงไม่มารายงานตัว  ซึ่งต้องฟังคำอธิบายด้วย เพราะตอนที่ลายังไม่มีหมายจับ ซึ่งยอมรับว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจริยธรรมข้าราชการ อย่างที่เคยบอกไปแล้ว คนกลุ่มนี้จะอยู่สบายๆ คงไม่ใช่  ต้องรับแรงกดดันมหาศาล เมื่อเจอชื่อก็จะ “ร้องเอ๊ะ” ได้เลย ซึ่งถือเป็นขอโทษทางสังคม แต่การลงโทษอื่นๆ ต้องเป็นไปตามระเบียบ และเชื่อว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางสายงาน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไปยืนยันให้ความเป็นธรรม เราไม่กลั่นแกล้งใครอยู่แล้ว 


เมื่อถามว่าจะสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือไม่ นายอนุทิน ได้หัวเราะก่อนตอบว่า ถ้าตนสั่ง ตนก็ผิด เพราะเป็นการไปก้าวก่ายข้าราชการประจำ  ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย หากจะมีการย้ายข้าราชการระดับ 9 ไม่ต้องปรึกษารัฐมนตรี

โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ตามหนังสือใบลาได้ระบุว่า “ลาพักผ่อน”และมีหนังสือจากนายอำเภอท่าอุเทน ได้ชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ไปแล้วว่า อนุมัติไปวันไหน และเมื่อรู้ว่ามีหมายจับก็ได้สั่งยกเลิก และเรียกมารายงานตัว ซึ่งเป็นมูลเหตุที่ต้องสอบถาม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน 


ส่วนที่มีการเสนอให้ตัดบำเหน็จบำนาญนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบ จะลงโทษอะไรใครต้องมีระเบียบรองรับ ไม่เช่นนั้นคนที่ไปลงโทษเขาจะถูกฟ้องได้.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]