กรุงเทพฯ 1 ก.พ.-กกพ.แจง “กัลฟ์ฯ” นำเข้า LNG เพิ่มได้ตามหลักเกณฑ์ ซึ่งล่าสุดได้ใบอนุญาต รวมเป็น 6.37 ล้านตันต่อปี ย้ำการนำเข้าต้องไม่สร้างภาระค่าไฟฟ้า ไม่กระทบภาระ Take or Pay สำหรับปริมาณรวมนำเข้าแอลเอ็นจีปีนี้อาจสูงถึง 10 ล้านตัน
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)และในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวถึงการออกใบอนุญาตให้บริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด (Gulf LNG) ในเครือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จัดหาและนำเข้า LNG เพิ่มเติมรวมเป็น 6.37 ล้านตัน จากเดิมเคยขอไว้ 3 แสนตันต่อปีว่า เป็นไปตามนโยบายเปิดเสรีนำเข้าที่ กกพ.ได้ให้ใบอนุญาตรวม 7 รายไปก่อนหน้านี้ โดยหากรายใดสามารถนำเข้าและไม่ขัดหลักเกณฑ์ที่วางไว้ก็สามารถมาขอแจ้งเพิ่มการนำเข้าได้ แต่จะนำเข้าได้ปริมาณเท่าใดขึ้นอยู่กับว่าจะเจรจาจองสถานีหรือคลังแอลเอ็นจีนำเข้าได้หรือไม่ รวมไปถึงหากเป็นสัญญาที่นำเข้าแล้วมีผลต่อค่าไฟฟ้า ราคาแอลเอ็นจีนำเข้าก็จะต้องเป็นไปตามกลไกสูตรราคา Bench mark ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องไม่กระทบต่อการเกิดภาระ Take or Pay ที่ บมจ.ปตท.มีสัญญากับคู่ค้าด้วย โดยเงื่อนไขที่กำหนดในกรณีนำเข้ามาใช้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าของเอกชนผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ ( IPP) คือ จะต้องไม่มีสัญญากับ ปตท. หรือ เป็นสัญญาที่มีไว้แล้ว แต่ยังไม่เคยมีการนำเข้ามาใช้ ซึ่ง กรณีกัลฟ์ที่ขอเพิ่มเติม เป็นสัญญาที่มีไว้แต่ไม่เคยนำเข้ามาใช้
นายคมกฤช กล่าวว่า ในการนำเข้าแอลเอ็นจีปีนี้ นอกจาก ปตท.จะนำเข้าตามสัญญาระยะยาว 5.2 ล้านตัน/ปีแล้ว ในขณะนี้จากการประเมินปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ลดลงกว่าแผน เช่นกรณีแหล่งเอราวัณ ก็อาจจำเป็นที่ประเทศไทยต้องนำเข้าเพิ่มอีกมากกว่า 4.5 ล้านตันในปีนี้ แต่เนื่องจากราคาตลาดโลกค่อนข้างผันผวนราคาสูงกว่า 20 เหรียญสหรัฐ/ตัน หลายรายที่ไม่สามารถติดต่อซื้อหรือมีดีลสัญยาระยะกลาง-ยาว ได้ ก็อาจทำให้ปีนี้มีชิปเปอร์รายใหม่นอกเหนือ ปตท.ที่จะนำเข้าคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ,กลุ่มกัลฟ์ และกลุ่มบีกริม เท่านั้น
ทั้งนี้ กัลฟ์ แจ้งว่า ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานให้เป็นผู้จัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ปริมาณ 0.30 ล้านตันต่อปี เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก( SPP) จำนวน 19 โครงการของกลุ่มบริษัทฯ และต่อมา Gulf LNG ได้รับอนุมัติจาก กกพ. ให้จัดหาและนำเข้าก๊าซฯ เพิ่มขึ้นอีก 0.53 ล้านตันต่อปี เพื่อจำหน่ายให้แก่กลุ่มของบริษัท ปตท. จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ จำกัด (PTT NGD) ล่าสุด ได้ขอรับใบอนุญาตนำเข้าก๊าซธรรมชาติจาก กกพ. เพิ่มขึ้นอีก 5.54 ล้านตัน เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่( IPP) ของกลุ่มบริษัทฯ เอง ส่งผลให้ ในปัจจุบัน Gulf LNG มีสิทธิในการจัดหาและนำเข้า LNG ในปริมาณรวมทั้งสิ้น 6.37 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ในอนาคต บริษัทฯ ยังสามารถนำLNG ของกลุ่มมาใช้บริการกับท่าเทียบเรือก๊าซและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal)ของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการของบริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) อีกด้วย .-สำนักข่าวไทย