31 ม.ค. – ครอบครัวของแรงงานไทยอีก 1 คนที่ยังถูกจับเป็นตัวประกัน ยังรอคอยด้วยความหวังจะได้รับการปล่อยตัวเช่นเดียวกับ 5 คนไทย และหากกลับมาได้จะไม่ให้ไปทำงานที่อิสราเอลอีก
นายลพ ปินตา อายุ 84 ปี พ่อและคนในครอบครัวนายณัฐพงษ์ ปินตา หนุ่มแรงงานไทยหนึ่งเดียวที่ยังถูกจับเป็นตัวประกัน และยังไม่มีข่าวคราวการปล่อยตัว ยังคงนั่งรอคอยฟังข่าวด้วยความหวังที่บ้านพักใน ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่
พี่สาวของนายณัฐพงษ์ บอกว่า น้องชายไปทำงานที่อิสราเอล นาน 1 ปี 4 เดือนแล้ว ก่อนจะขาดการติดต่อไป จนทราบว่าถูกจับเป็นตัวประกัน ล่าสุดทราบว่าเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ทางครอบครัวกังวลมาก เกรงน้องชายจะไม่ปลอดภัย ตอนนี้ยังคงรอฟังข่าวด้วยความหวังว่าน้องชายจะได้รับการปล่อยตัวเช่นเดียวกับ 5 แรงงานไทย โดยทางครอบครัวได้ไปถามหมอดูหลายที่ตามความเชื่อ บอกตรงกันว่าน้องชายยังมีชีวิตอยู่ ทำให้มีความหวังมากขึ้นว่าจะมีปาฎิหาริย์ให้นายณัฐพงษ์กลับมา เพราะที่ผ่านมาน้องเป็นกำลังหลักในการดูแลครอบครัว และหากได้ปล่อยตัวกลับมาจะไม่ให้กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว
ขณะที่บ้านของครอบครัวนายบรรณวัชร แซ่ท้าว 1 ใน 5 แรงงานไทยที่ถูกปล่อยตัว ที่บ้านปางแก ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจ โดยเฉพาะ น.ส.วิชญาดา อายุ 22 ปี ภรรยา ได้วิดีโอคอลหาสามี
น.ส.วิชญาดา เล่าทั้งน้ำตาด้วยความดีใจว่า ตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่าสามีได้รับการปล่อยตัวยังไม่มั่นใจ กระทั่งได้โทรศัพท์พูดคุยผ่านวิดีโอคอลกับสามี รู้สึกเป็นปาฏิหาริย์ สามีถูกจับตัวไปตั้งแต่ลูกคนที่ 3 คลอดได้ 1 เดือน จนปัจจุบันอายุ 1 ขวบ 2 เดือน หลังจากนี้หากได้กลับบ้านแล้วจะได้พูดคุยกันและวางแผนอนาคตครอบครัวกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยประสานจนสามีได้กลับมา รวมถึงการเยียวยาทุกด้านแก่ครอบครัวด้วย
ขณะที่นายทวีศักด์ พุ่มมรดก นายอำเภอทุ่งช้าง พร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของนายบรรณวัชร ซึ่งได้รับการยืนยันจากกระทรวงการต่างประเทศแล้วว่าเป็น 1 ใน 5 คนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ หลังถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 จนถึงวันนี้เป็นเวลานาน 1 ปี 3 เดือน.-สำนักข่าวไทย