กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-รมว.เกษตรฯ ประชุมคณะกรรมการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรค ASF เร่งสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยกลับมาเลี้ยงใหม่ โดยกำหนด Pig Sandbox เป็นเขตควบคุมพิเศษ ให้เลี้ยง เคลื่อนย้าย และจำหน่ายได้เฉพาะในพื้นที่ Sandbox ลักษณะเดียวกับการทำ Sandbox ในโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง อธิบดีกรมปศุสัตว์รายงานผลตรวจห้องเย็นตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ถึงขณะนี้พบเนื้อและชิ้นส่วนหมูเกือบ 20 ล้านกิโลกรัมแล้ว
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรแห่งชาติ (African swine fever : ASF) โดยมีนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์รายงานผลการสำรวจข้อมูลการเลี้ยงปัจจุบัน เปรียบเทียบกับจำนวนเกษตรกรและจำนวนสุกร ณ เดือนมกราคม 2565 พบว่า เกษตรกรปี 2565 มี107,157 ราย ลดลงร้อยละ 43.35 มีหมู 10.847 ล้านตัว ลดลงร้อยละ 11.81 หมูแม่พันธุ์ 0.979 ล้านตัว ลดลงร้อยละ 11.16
สำหรับพื้นที่ที่มีการเลี้ยงแม่พันธุ์เพิ่มขึ้นได้แก่ จังหวัดชัยนาท ขอนแก่น นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ในส่วนของพื้นที่เขตปศุสัตว์ที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญมีการเลี้ยงแม่พันธุ์ลดลงได้แก่ เขต 7 แม่พันธุ์ลดลงร้อยละ 30 เขต 2 แม่พันธุ์ลดลงร้อยละ 20 นอกจากนี้เกษตรกรปรับขนาดการเลี้ยงให้เหมาะสม ลดความหนาแน่นของหมูในฟาร์ม คุ้มค่าการลงทุน ยกระดับการป้องกันโรคในฟาร์มเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาด้านสุขภาพ
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า กรมปศุสัตว์จะกำหนดพื้นที่นำร่อง “Pig Sandbox” เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงหมูในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีมาตรการ 3S คือ
1. Scan ภายใต้มาตรการประเมินความเสี่ยง แล้วให้พื้นที่ Pig Sandbox กลับมาเลี้ยงได้ก่อน
2. Screen ตั้งแต่ผู้เลี้ยง คอก เครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีความพร้อมและเหมาะสม
3. Support สนับสนุน ช่วยเหลือ ด้านการจัดการเลี้ยงดู การตลาด และแหล่งทุน
ทั้งนี้ Pig Sandbox จะเป็นเขตควบคุมพิเศษกำหนดให้เลี้ยง เคลื่อนย้าย และจำหน่ายได้เฉพาะในพื้นที่ Sandbox ลักษณะเดียวกับการทำ Sandbox ในโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสินค้าปศุสัตว์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า มีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค อย่างเข้มงวด โดยป้องกันการลักลอบนำสุกรมีชีวิตและผลิตภัณฑ์เข้าประเทศ เฝ้าระวังและค้นหาโรคเชิงรับและเชิงรุก เช่น การเฝ้าระวังทางอาการในฟาร์ม การเฝ้าระวังในโรงฆ่าสัตว์ การเฝ้าระวังในซากและผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในตลาด การประเมินความเสี่ยงระดับอำเภอทั่วประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการการควบคุมการเคลื่อนย้ายโดยทำฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM: Good Farming Management) เพื่อเป็นการลดความเสียหายสามารถป้องกันการเกิดโรคได้และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อน เพื่อยกระดับเป็นฟาร์มที่มีการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) และการรายงานผลตรวจโรคหากพบเชื้อ ASF ในสุกร ในใบรายงานผลเพิ่มข้อแนะนำและมาตรการดำเนินการให้เกษตรกรทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการได้ถูกต้องเพื่อลดความเสียหายจากการแพร่กระจายโรคด้วย
สำหรับผลการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจห้องเย็นวันนี้ (27 ม.ค.) เข้าตรวจ 115 แห่ง พบเนื้อและชิ้นส่วนหมู 256,048.18 กิโลกรัม เมื่อรวมผลการตรวจตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. เป็นต้นมา เข้าตรวจแล้ว 1,035 แห่ง พบเนื้อและชิ้นส่วนหมู 19,268,584.892 กิโลกรัม.-สำนักข่าวไทย