ปตท. 10 ม.ค. – จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เสนอให้ทบทวนการปรับโครงสร้างธุรกิจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่แยกกิจการและสินทรัพย์ในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันออกมาเป็นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก(พีทีทีโออาร์) ซึ่ง ปตท.จะกระจายหุ้นและจะถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50
วันนี้หลังร่วมพิธีส่งมอบความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ทั้งพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่าการกระจายหุ้นไม่กระทบความมั่นคงด้านพลังงาน เพราะมีการแข่งขันในธุรกิจน้ำมันมีผู้ค้ามากรายและมีกลไกกำกับดูแลที่เพียงพอ เรื่องนี้เป็นการบริหารงานภายในของ ปตท. แต่หากไม่แยกธุรกิจออกมาอาจผิดต่อเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเข้าไปแข่งขันในกิจการที่เอกชนสามารถดำเนินการธุรกิจได้
ส่วนเรื่องที่ สตง.เกรงสินทรัพย์ของชาติสูญหายและต้องการให้ ปตท.ถือหุ้นในบริษัทในเครือมากกว่าร้อยละ 50 นั้น นายเทวินทร์ ชี้แจงว่าคงเป็นเรื่องที่ทำได้ลำบาก เพราะหากถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 อาจเข้าข่ายดำเนินการผิดหลักเกณฑ์การแข่งขันบริษัทนั้นอาจจะกลายเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่สำคัญต้องใช้วงเงินการซื้อหุ้นมูลค่าที่สูง โดยปัจจุบันการถือหุ้นร้อยละ 49 ทาง ปตท.สามารถบริหารจัดการให้ดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดให้เกิดประสิทธิภาพได้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องสินทรัพย์ของชาติสูญหายนั้น นายเทวินทร์ กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดสูญหายและสินทรัพย์ของภาครัฐจะมากขึ้น เพราะการกระจายหุ้น เมื่อมีเม็ดเงินเข้า ปตท.ก็จะมีเงินลงทุนไปขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น หรือมีเงินปันผลจ่ายไปยังภาครัฐหรือกระทรวงการคลังที่ถือหุ้นร้อยละ 51 ได้ ซึ่งหากไปดูมูลค่าของรัฐบาล เฉพาะกระทรวงการคลังที่ถือหุ้นอยู่ก่อนแปรรูปคลังถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ ปตท.มีสินทรัพย์เพียงกว่า 30,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่หลังกระจายหุ้น ปัจจุบัน ปตท.มีสินทรัพย์กว่า 1 ล้านล้านบาท คลังถือหุ้นร้อยละ 51 ก็มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ กว่า 500,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในส่วนของพีทีทีโออาร์ ในแง่ของอำนาจของรัฐทั้งการซื้อขายน้ำมันภาครัฐ คลังนำเข้าแอลพีจีเขาบ่อยา ที่จัดตั้งขึ้นตามนโยบายรัฐ ก็ไม่ได้โอนกิจการไปยังพีทีทีโออาร์แต่อย่างใด
“ในส่วนของการกำกับดูแลด้านราคาน้ำมันหน้าปั๊ม ปตท.ยังคงนโยบายช่วยตรึงราคาดูแลภาคประชาชน แม้แยกเป็นพีทีทีโออาร์ โดยปี 2559 ราคา ปตท.ต่ำกว่าราคาผู้ค้าข้ามชาติในส่วนของกลุ่มเบนซิน 20 วัน ดีเซลต่ำกว่า 10 วัน ในแง่ความมั่นคง เสถียรภาพราคา ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุผลทั้งหมดทาง ปตท.จะนำเสนอรัฐบาลเพื่อเป็นส่วนประกอบในการพิจารณา ซึ่ง ปตท.ยังตั้งเป้าหมายแยกพีทีทีโออาร์ตามแผนเดิม” นายเทวินทร์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย