“ราเมศ” หนุนตรวจสอบนโยบายแจกเงินดิจิทัล

กทม. 15 ต.ค.-“ราเมศ” หนุน ป.ป.ช. สตง. ตรวจสอบนโยบายแจกเงินดิจิทัล เตือนซ้ำทุกการกระทำของรัฐบาล มีผลต่ออนาคต

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีออกมาอ้อนประชาชนให้เชียร์นโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ถือว่าเป็นสิทธิของนายกรัฐมนตรีและองคาพยพของรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่พยายามออกมาชี้นำประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ทำคือการอธิบายด้วยเหตุด้วยผล ให้ความรู้ความเข้าใจที่ไปที่มาของโครงการซึ่งยังไม่มีความชัดเจนไม่ว่าจะเป็นที่มาของเงินว่าจะใช้งบประมาณจากส่วนไหนของงบประมาณแผ่นดิน ขั้นตอนวิธีการในการดำเนินการ จะได้ความคุ้มค่ามากน้อยขนาดไหน นายกรัฐมนตรีต้องอธิบายถึงสภาวะการเกิดภาวะเงินเฟ้อว่ามีความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน ข้าวของจะมีราคาสูงขึ้นกว่าปกติหรือไม่ และสาระสำคัญจะไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยขนาดไหน ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต


นายราเมศ กล่าวอีกว่า การที่มีหลายฝ่ายมาท้วงติง ติติง อย่ามองว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เขามีความเชี่ยวชาญเข้าใจและห่วงใยภาพรวมของประเทศมาตลอดชีวิต รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่ท้วงติงมาด้วยหลักการและเหตุผลที่ดี ซึ่งขณะนี้ก็จะมีผลการสำรวจของความคิดเห็นของสถาบันต่างๆ สิ่งสำคัญเหล่านี้ควรนำมาประกอบการตัดสินใจด้วยว่าจะมีการเดินหน้าต่อหรือไม่อย่างไร หรือควรปรับปรุงแก้ไขมากน้อยแค่ไหน เพราะงบประมาณที่จะนำมาใช้มีจำนวนมาก เชื่อว่านัยยะที่สำคัญคือการหวังผลในทางการเมืองพยายามใช้การปลุกกระแสเพื่อให้เห็นว่าฝ่ายที่สนับสนุนก็มี ที่สำคัญเมื่อพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเป็นนโยบายก็มีความพยายามจะเดินต่อไปให้สุดทาง แต่หลักการของความเป็นผู้นำที่ดีควรยึดหลักการความถูกต้องนั้นคือการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะทำให้นายกรัฐมนตรีตั้งหลักในการคิดได้ อย่าคิดในเชิงการเมืองเพราะสัจธรรมที่แท้จริงการเมืองมาแล้วก็ไป แต่ควรเลือกทิ้งในสิ่งที่ดีไว้ให้กับลูกหลาน ประชาชน อย่าสร้างภาระให้กับประเทศและประชาชน ดูจะง่ายเกินไปที่บอกเพียงว่าถ้านโยบายนี้ผิดพลาดรอบหน้าก็อย่าเลือกพรรคเพื่อไทย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการเห็นแก่ประโยชน์ในทางการเมืองมากกว่าสิ่งอื่นใด

นายราเมศยังกล่าวอีกว่า เสียงท้วงติงที่เพิ่มมากขึ้นรัฐบาลต้องรับฟังอย่างจริงใจ อย่าผลักใสใล่ส่งความเห็นเหล่านั้น เชื่อว่าหากยังยืนยันเดินหน้าต่อไป ผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศมีอย่างแน่นอน ด้วยหลายเหตุผล นโยบายขาดการศึกษาอย่างรอบด้านไม่ละเอียดรอบคอบ คิดเพียงเพื่อใช้ในการหารณรงค์หาเสียง การใช้งบประมาณที่มีจำนวนมากถึง 560,000 ล้าน ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง อีกหลายเหตุผลที่เห็นได้ว่า นโยบายนี้ได้ไม่คุ้มเสีย


ทั้งนี้นายราเมศได้สนับสนุนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ ที่ได้ตั้งทีมขึ้นมาตรวจสอบนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการก่อให้เกิดปัญหาการทุจริต ผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืนของฐานะทางการเงินการคลัง พร้อมกับย้ำในตอนท้ายว่าทุกการกระทำของรัฐบาลอนาคตจะเป็นคำตอบแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล