กรมอนามัย เผยเด็กเล็กแยกกักตัวอยู่ที่บ้าน ย้ำพ่อแม่ดูแลใกล้ชิด ​

กทม. 22 ม.ค.-กรมอนามัย แนะพ่อแม่ควรดูแลและสังเกตอาการเด็กเล็กติดเชื้อโควิด-19 ที่แยกกักตัวที่บ้าน Home Isolation อย่างใกล้ชิด หากวัดระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 95% และมีไข้ตั้งแต่ 39 องศาฯ ขึ้นไป หรือว่ามีอาการหอบเหนื่อยผิดปกติ ให้รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กติดเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว ซึ่งอาการติดเชื้อที่พบตั้งแต่ไม่มีอาการ จนถึงมีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ โดยกลุ่มเสี่ยงที่พบอาการรุนแรงคือ เด็กทารกและเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที เมื่อตรวจ ATK หรือเมื่อตรวจ RT-PCR ให้ผลพบเชื้อ ส่วนเด็กที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย สามารถรับการรักษาแบบ Home Isolation (HI) ได้ แต่ต้องมีพ่อแม่ หรือผู้ปกครองที่สามารถดูและประเมินอาการให้เด็กได้ตลอดเวลา โดยใช้อุปกรณ์เพื่อติดตามอาการ ได้แก่ ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว อุปกรณ์ที่สามารถถ่ายภาพหรือคลิปวีดีโออาการของเด็กได้ โทรศัพท์ เพื่อติดต่อกับสถานพยาบาลหากมีเหตุจำเป็น และยาสามัญประจำบ้านเพื่อบรรเทาอาการ ได้แก่ ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก และเกลือแร่


​นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตอาการโดยรวมของเด็กอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งระดับอาการของเด็กแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ 1 อาการในระดับที่สามารถเฝ้าสังเกตที่บ้านต่อไปได้ คือ มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก มีอาการไอเล็กน้อย ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลว ยังคงกินอาหารหรือนมได้ปกติและไม่ซึม ส่วนแบบที่ 2 อาการที่ผู้ปกครองควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำเด็กส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว คือ มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส หายใจหอบเร็วกว่าปกติ ใช้แรงในการหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจน ปลายนิ้วน้อยกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ ซึมลง ไม่ดูดนม และไม่กินอาหาร นอกจากนี้ ผู้ปกครองต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมืออย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับเด็กที่ติดเชื้อ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสในห้องเป็นระยะด้วยแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% หรือน้ำยาทำความสะอาดที่สามารถกำจัดเชื้อโควิด-19

“ทั้งนี้ หากเด็กมีภาวะข้อใดข้อหนึ่ง เช่น อาการหายใจหอบ มีการใช้แรงในการหายใจ เช่น หายใจอกบุ๋ม ชายโครงบุ๋ม หรือปีกจมูกบาน ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94% ริมฝีปาก เล็บ หรือปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ ซึมลง ไม่ดูดนม กินไม่ได้ เพลีย ไม่มีมีแรง หรือมีไข้ตั้งแต่ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป ให้รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่