ปคบ. 20 ม.ค.-เจ๊เมี่ยง เจ้าของโฮมแคร์เถื่อน เบี้ยวมอบตัว อ้างขอเวลาหาทนายความ ด้าน ผกก.4 บก.ปคบ. ยันไม่รอมอบตัว เตรียมออกหมายเรียกเย็นนี้ (20 ม.ค.)
พันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เปิดเผยหลัง “เจ๊เมี่ยง” หรือ นางสาวสาธิดา สงวนนามสกุล เบี้ยวมอบตัวกับพนักงานสอบสวน หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจ ปคบ. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นภายในสถานบริการเพื่อสุขภาพ 2 แห่ง ในพื้นที่ลาดกระบังและหนองจอก ที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขว่า เมื่อช่วงเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา “เจ๊เมี่ยง” หรือผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์เข้ามาขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนออกไปเป็นวันที่ 22 หรือ 23 มกราคมนี้ โดยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการหาทนายความมาว่าความให้ กรณีนี้ พนักงานสอบสวนจะไม่รอให้ผู้ต้องหามามอบตัว แต่จะดำเนินการออกหมายเรียกภายในวันนี้(20 ม.ค.) เพื่อให้เจ๊เมี่ยงมาพบพนักงานสอบสวนภายใน 7 วัน เนื่องจากการนัดหมายยังไม่สามารถจะระบุวันเวลาที่ชัดเจน อ้างว่าจะมาพบในวันที่ 22 หรือ 23 มกราคมเท่านั้น จึงจำเป็นต้องออกหมายเรียกตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเจ๊เมี่ยงจะถูกดำเนินคดีในข้อหาประกอบกิจการสถานบริการเพื่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจค้นเมื่อวานที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุออกจากพื้นที่แล้วบางส่วน โดยในสาขาลาดกระบัง จากการตรวจค้นพบผู้สูงอายุ 19 คน ย้ายไปที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี คลอง 5 จำนวน 5 คน บ้านบางแค 2 จำนวน 6 คน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเรือนเย็นใจ 1 คน และยังตกค้างอยู่อีก 7 คน ไม่สามารถติดต่อญาติได้
ส่วนในสาขาหนองจอก จากการตรวจค้นพบผู้สูงอายุ 21 คน ญาติรับกลับไปแล้วจำนวน 7 คน เคลื่อนย้ายไปที่บ้านพักผู้สูงอายุอื่นๆ จำนวน 4 คน บ้านบางแค 2 จำนวน 3 คน และยังตกค้างอยู่อีก 7 คน ซึ่งยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปติดตามดูแลแล้ว ในจำนวน 7 รายมีผู้ป่วยติดเตียงด้วย 2 ราย
ด้านเจ๊เหมี่ยง ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชน ว่า สถานที่ทั้ง 2 แห่งเพิ่งย้ายมาได้เพียง 2-3 เดือน หลังจากก่อนหน้านี้ถูกไล่ที่จากพื้นที่หมู่บ้านภัสสร 13 และที่ฉะเชิงเทรา พร้อมยืนยันขณะนี้ ตนได้ยื่นเรื่องขอใบอนุญาตประกอบกิจการไปแล้วก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปลายปี 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. เป็นคนแจ้งว่าในระหว่างรอใบอนุญาตสามารถดำเนินกิจการไปก่อนได้
ส่วนกรณีที่ต้องใช้โซ่ล็อคประตูห้องไว้ เนื่องจากกลัวผู้สูงอายุหาย เพราะสถานที่ไม่มีประตูรั้วล้อม อีกทั้งผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ กรณีคุณตาที่ต้องล่ามโซ่ไว้ที่ข้อเท้า เพราะคุณตามีพฤติกรรมชอบเดินเก็บขยะมากิน และชอบเดินเข้าหาผู้หญิง ซึ่งได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางญาติรับทราบ และญาติเป็นผู้อนุญาตให้ล่ามโซ่ไว้
สำหรับที่ไม่มาเข้ามอบตัวในวันนี้ เนื่องจากกลัวว่าหากเดินทางมาเพียงลำพัง อาจถูกพนักงานสอบสวนควบคุมตัวไปฝากขัง ซึ่งเพื่อนแนะนำให้พาทนายความมาด้วย ยืนยันว่าไม่ได้คิดหลบหนี จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อพร้อม ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีก็จะต่อสู้ไปตามความเป็นจริง กรณีนี้ตนยืนยันว่าโดนกลั่นแกล้ง ด้านนายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ยืนยันว่า จากการตรวจสอบในระบบผู้ขออนุญาตในปี 2564 ไม่พบว่ามีการขออนุญาตของสถานประกอบการของเจ๊เมี่ยงทั้งที่ลาดกระบังและหนองจอก ส่วนกรณีที่เจ๊เมี่ยงอ้างว่า กรม สบส. แจ้งว่า สามารถยื่นใบอนุญาตไปเปิดกิจการไปด้วยได้นั้น ยืนยันว่า หากยื่นขออนุญาตมาหลังวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 จะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการก่อนเท่านั้น จึงจะสามารถเปิดกิจการได้.-สำนักข่าวไทย