ทำเนียบ 14 ม.ค.-ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 8,158 ราย หากรวมผลตรวจ ATK ยอดอยู่ที่ 10,877 ราย แต่ยังอยู่ในตัวเลขประมาณการ ยังพบครัสเตอร์ร้ายอาหาร งานบุญ และโรงงาน มีปัจจัยเสี่ยงจากการรับประทานอาหารร่วมกัน เดินทางข้ามจังหวัด ย้ำยังคงเข้มนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ หลัง 15 ม.ค.ยังมาได้สำหรับผู้ลงทะเบียนไว้แล้ว
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 8,158 ราย ติดเชื้อในประเทศ 7,905 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 242 ราย จากเรือนจำ ที่ต้องขัง 11 ราย หายป่วยแล้ว 3,942 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 74,795 ราย รักษาในโรงพยาบาล 42,004 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 32,791 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 510 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 105 ราย ผู้เสียชีวิต 15 คน
ส่วนการตรวจ ATK รวมทั้งประเทศ (13 ม.ค.) จำนวน 116,906 ตัวอย่าง พบผู้ติดเชื้อ 2,719 ราย หากรวมกับผลตรวจ RT-PCR จำนวน 8,158 ราย จะอยู่ที่ 10,877 ราย ซึ่งยังคงอยู่ในตัวเลขประมาณการที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานก่อนหน้านี้
จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด ชลบุรี 825 ราย กรุงเทพ 766 ราย สมุทรปราการ 735 ราย ภูเก็ต 441 ราย นนทบุรี 368 ราย ขอนแก่น 299 ราย อุบลราชธานี 269 ราย ปทุมธานี 191 ราย เชียงใหม่ 189 ราย และสมุทรสาคร 181 ราย
ผู้เสียชีวิต 14 คน เป็นชาย 8 ราย หญิง 7 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 9 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 4 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีโรคเรื้อรัง 1 ราย และเด็กอายุ 3 ปี 1 ราย ทั้งนี้จะพบว่าผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนหรือยังรับวัคซีนไม่ครบ 2 โดส รวมทั้งบางรายได้รับวัคซีนครบแต่ทิ้งช่วง 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำชับว่าแม้จะได้รับวัคซีนครบสองเข็ม ก็ขอให้รับเข็มกระตุ้น
ผลการฉีดวัคซีน เพิ่มขึ้น 542,689 โดส ทำให้ยอดรวมเข็มที่ 1 จำนวน 51,694,907 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 47,301,137 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 9,317,904 โดส ทั้งนี้ยังพบว่า ยอดการฉีดวัคซีนเข็มสามของประชาชนยังต่ำอยู่ ทางอธิบดีกรมควบคุมโรคจึงออกมาเน้นย้ำว่า วัคซีนทุกประเภท ทุกสูตรมีประสิทธิผลสูง 90-100 % ในการป้องกันการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ภูมิคุ้มกันก็สามารถลดลงได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่เมื่อฉีดกระตุ้นในเข็ม 3 พบว่าภูมิคุ้มกันจะเพิ่มสูงขึ้น และสามารถช่วย ควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การกระตุ้นโดยเข็ม 3 ไม่ว่าจะเป็นเอสต้าเซเนก้า หรือ ไฟเซอร์ ให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงไม่แตกต่างกัน และสามารถ ป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งสองยี่ห้อ
ส่วนการติดเชื้อในลักษณะครัสเตอร์ ส่วนใหญ่เป็นครัสเตอร์ร้านอาหาร ที่จังหวัดเลย ร้านเหล้าที่จังหวัดขอนแก่น ร้านเหล้าสุขสันต์ ร้าน 99 วินเทจ ซึ่งเป็นการเปิดโดยฝ่าฝืนข้อกำหนด เพราะยังไม่มีการอนุญาตให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการได้ นอกจากนี้ยังมีที่ ศรีสะเกษ เชียงใหม่ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อุดรธานี
สำหรับครัสเตอร์ปีใหม่ ยังพบยอดผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลปีใหม่ อย่างต่อเนื่อง วันนี้พบครัสเตอร์ เลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ที่จังหวัดอุดรธานี และอำนาจเจริญ ส่วนครัสเตอร์พิธีกรรมพบที่จังหวัดลพบุรีจากงานบวช จังหวัดเลยงานบุญ จังหวัดสงขลา งานแต่งงาน สาเหตุการติดเชื้อเกิดจากการรับประทานอาหารร่วมกัน และการเดินทางข้ามจังหวัด นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อในโรงงานและสถานประกอบการ ที่จังหวัดอุดรธานี สมุทรปราการ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ด
พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินมาประเทศไทย ซึ่งมาตรการนี้ใช้กับคนไทยและชาวต่างชาติ และเมื่อมาถึงต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำทันที หลังจากนั้นในวันที่ 5 และ 6 ก็ต้องตรวจซ้ำเป็นครั้งที่สองด้วย การตรวจหาเชื้อเป็นช่วงๆยังมีความจำเป็นและไม่ได้มีการยกเลิก โดยในส่วนของผู้ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวก็ได้มีการบังคับให้โหลดแอบพลิเคชั่นหมอชนะ ล่าสุดการเดินทางเข้าประเทศจากวันที่ 1 ถึง 13 มกราคม มีผู้เดินทางเข้าประเทศที่ลงทะเบียนผ่านระบบ จำนวน 103,665 ราย ติดเชื้อ 3,424 ราย โดยสัดส่วนการติดเชื้อระหว่าง Test&Go Sandbox และ Quarantine ใกล้เคียงกัน นักท่องเที่ยวติดเชื้อสูงสุด ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร อเมริกา สวีเดน และเยอรมนี ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนจาก 100 คน มาจริงเพียง 30 คน ช่วงปีใหม่มา 50 คน ทั้งนี้การเดินทางเข้าราชอาณาจักรหลังวันที่ 15 มกราคม ยังสามารถเดินทางมาได้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว จนกว่าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง .- สำนักข่าวไทย