เสียงแม่สาวทอมกรีดร้องแทนตัวเองว่าหนู เล่าเหตุอุ้มฆ่า ขณะเชิญวิญญาณน้องหญิง


กทม. 12 ม.ค. – ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่า “น้องหญิง” สาวทอมนักร้องย่านพุทธมณฑล ล่าสุดตำรวจได้ฝากขัง 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวแล้ว พร้อมพาอีก 2 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดอุ้มเหยื่อขึ้นรถกระบะ ขณะที่เมื่อช่วงบ่าย แม่ของเหยื่อได้เดินทางไปที่รีสอร์ทร้าง จุดฝังศพเหยื่อ เพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับสู่บ้านเกิดที่สระแก้ว


12-1-2560 20-52-52 12-1-2560 20-53-09

เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสร้างความสะเทือนใจกับภาพที่ญาติของนางสมพิศ ตรัยจันทร์แดง อายุ 46 ปี แม่ของ “น้องหญิง” หรือ น.ส.สุภัคสรณ์ พลไทสง อายุ 28 ปี สาวทอมที่ถูกอุ้มฆ่าโหดฝังดินภายในรีสอร์ทร้างในตำบลเกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี ต้องพยุงแม่ของเหยื่อเดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง เพื่อไปจุดที่ลูกถูกฆ่าฝังดิน ก่อนทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณตามความเชื่อ เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดจังหวัดสระแก้ว แต่ระหว่างทำพิธี แม่ของเหยื่อก็มีอาการผิดปกติ ทั้งกรีดร้องเสียงดัง ใช้คำแทนตัวว่า “หนู” และเล่าถึงเหตุการณ์วันเกิดเหตุ หลังจากนั้นเมื่ออาการดีขึ้น แม่ของเหยื่อก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยเชื่อว่ามูลเหตุจูงใจมาจากประเด็นหึงหวง เพราะผู้ตายพยายามขอเลิกติดต่อกับ น.ส.กรรณิการ์ กรุมรัมย์ หรือ “ดาว” หลายครั้ง แต่เลิกไม่ได้ พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่าผู้ตายได้ยืมเงิน น.ส.กรรณิการ์ 4 ล้านบาท


12-1-2560 20-54-37 12-1-2560 20-59-14

ด้าน พล.ต.ต. นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา ระบุถึงผลการชันสูตรศพ เป็นศพของ น.ส.สุภัคสรณ์จริง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากขาดอากาศหายใจ มีรอยฟกช้ำที่หน้าผากและลำตัว ไม่มีกระดูกแตกหัก ไม่มีแผลฉกรรจ์ แต่ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาการเสียชีวิต รวมถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพราะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด คาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ ยืนยันเสียชีวิตก่อนถูกฝังดิน และคาดว่าจะมอบศพให้ครอบครัวไปประกอบพิธีทางศาสนาวันพรุ่งนี้

12-1-2560 20-54-53


ส่วนความคืบหน้าด้านคดี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจ สน.หนองค้างพลู คุมตัวนายนิวัฒน์ สวยทอง หรือ “อุ้ม” และนายภูมิทัศน์ พิบูรณ์สวัสดิ์ หรือ “โจ๊ก” 2 ผู้ต้องหาทีมอุ้มฆ่าไปทำแผนที่ซอยเพชรเกษม 116 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้รถกระบะปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้ตาย ก่อนอุ้มขึ้นรถแล้วขับไปกาญจนบุรี ขณะที่ พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ และ น.ส.กรรณิการ์ กรุมรัมย์ ที่ให้การปฏิเสธ ตำรวจไม่ได้นำตัวมาทำแผน

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจได้คุมตัว พ.ต.อ.อำนวย และนายนิวัฒน์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่นชันฝากขัง และคัดค้านการประกันตัว พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ทั้งร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หน่วงเหนี่ยวกักขังและเคลื่อนย้ายทำลายศพ ส่วน น.ส.กรรณิการ์ และนายภูมิทัศน์ ยังถูกสอบปากคำเพิ่มเติม คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 3 คนที่ยังหลบหนี คือนายชัยยุทธ เบ็ญจชาติ นายภาณุเมศวร์ มีลา และนายสามารถ แสงสิน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง