ชี้บริษัท รปภ. และนิติฯ คอนโด ต้องร่วมรับผิดทางกฎหมาย

กรุงเทพฯ 6 ม.ค.- ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ชี้บริษัท รปภ. และนิติฯ คอนโด ต้องร่วมรับผิดทางกฎหมาย หากขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้ตำรวจเข้าไปในที่เกิดเหตุนานถึง 2 ชั่วโมง

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และนักกฎหมายชื่อดังให้ความเห็นกรณี หัวหน้า รปภ.ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านในห้องพักคอนโดมีเนียม ย่านเพชรเกษม ซึ่งมีการขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปภายในคอนโด จนคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ ว่า ความรับผิดชอบทางกฎหมาย มีทั้งทางอาญา และทางแพ่ง โดยทางอาญา นายมนตรี หัวหน้ายามผู้ก่อเหตุมีความผิดชัดเจน ในข้อหาข่มขืน กระทำชำเราผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี ส่วนลูกน้อง รปภ. ที่อยู่ในขณะเกิดเหตุ ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้เข้าไปในที่เกิดเหตุนานถึง 2 ชั่วโมง จนคนร้ายหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องไปพิจารณาว่า ลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ มีส่วนรู้เห็น ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือให้หัวหน้าหลบหนีหรือไม่ หรือเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริต หากพิสูจน์ทราบมีหลักฐานเชื่อมโยงว่า รู้เห็นช่วยเหลือ หัวหน้า รปภ. ที่ทำผิด ให้หลบหนี ย่อมมีความผิดในข้อหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1ปีปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 189 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ


ส่วนนายจ้าง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทรักษาความปลอดภัย หรือนิติบุคคล ซึ่งมีหน้าที่ดูแลสถานที่ และความปลอดภัยของผู้พักอาศัย แต่หากไม่ป้องกันดูแล ย่อมมีความผิดและเมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่ช่วยเหลือในการจับคนร้ายก็มีความผิดต้องรับผิดชอบทางแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 ผู้ใดจงใจประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เสียหายถึงแก่ชีวิต ถึงแก่ร่างกาย เสรีภาพ ทรัพย์สินหรือสิทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้นั้นทำละเมิด จำเป็นต้อง ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และ มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้าง ในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำ โดยผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ตามมาตรา 446 เป็นค่าเสียหายด้านการทุรศีลธรรมและเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต การเป็น รปภ. มีหน้าที่ต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรแต่หากไม่ตรวจสอบ อาจมีความผิด ทางวินัย หรือความผิด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางต้นสังกัดผู้ออกใบอนุญาตต้องไปดูว่า ผู้ออก มีเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต ให้ รปภ. ควรมีการคุมเข้มตรวจสอบ การออกใบอนุญาต อย่างละเอียดรอบคอบ และบริษัท รปภ. นิติบุคคล ของคอนโด ควรตรวจสอบประวัติพนักงานทุกคนใหม่ ที่กองทะเบียน ประวัติอาชญากร เองอีกรอบ เพื่อความถูกต้อง และปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง