สตช.5 ม.ค.-พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน พบว่าเด็กและเยาวชนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกให้ถ่ายคลิปลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก โดยคนร้ายจะใช้วิธีการล่อลวงเด็กผ่านเกมออนไลน์ หลอกว่าจะเติมเงินหรือส่งไอเทมภายในเกมส์ให้ เพื่อแลกกับการที่ต้องส่งภาพลามกอนาจารให้กับคนร้าย ซึ่งเด็กส่วนมากมักหลงเชื่อและส่งภาพลามกอนาจารเพื่อแลกกับของในเกมส์ จากนั้นคนร้ายก็บันทึกภาพลามกอนาจารไว้ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ โดยให้เด็กจ่ายเงินหรือบังคับให้ส่งภาพหรือคลิปลามกเพิ่มเติม มิฉะนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในสื่อสังคมออนไลน์หรือขู่ว่าจะส่งไปให้ครูอาจารย์ หรือบุคคลที่เด็กรู้จัก ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวและยอมทำตามคนร้าย
สำหรับการกระทำความผิดลักษณะนี้ มีหลายข้อหา ทั้งครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 // ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 //ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และกรรโชกทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 นอกจากนี้ การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(4)-สำนักข่าวไทย