“อุตตม-สนธิรัตน์” เปิดตัวพรรคใหม่เดือนนี้

กรุงเทพฯ 5 ม.ค.-“อุตตม-สนธิรัตน์ ” โพสต์เฟซบุ๊กจับมือบุคคลมีชื่อเสียงจากหลายวงการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เตรียมเปิดตัวทางการเดือนนี้


นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและนายสนธิรัตน์สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเส้นทางทางการเมืองและการตั้งพรรคหรือไม่ โดยระบุว่า เดิมเตรียมจะนัดสื่อมวลชน เพื่อเล่าถึงความคืบหน้าการดำเนินการทั้งหลาย ในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2565 แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งกำลังเป็นที่กังวลและรัฐบาลขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงสองสัปดาห์แรกของปี จึงเห็นว่า ควรให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ จึงขอสื่อสารเจตนารมณ์ผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นการเหมาะสมกว่า

ขอเรียนว่าหลังจากลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งเมื่อราว 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมืองทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจระดับชาติและระดับฐานราก ความขัดแย้งทางการเมืองที่ถลำลึกเรื่องความยุติธรรมที่เป็นปมปัญหาและไม่เสมอภาคของประเทศ ที่ทำให้ประเทศ ทำให้คนไทยเสียโอกาสด้วยความห่วงใยมาโดยตลอด


ระยะเวลาปีครึ่งที่ผ่านมาได้มีโอกาสรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนมากหน้าหลายตาจากหลากแวดวง และได้พบปะพี่น้องประชาชนหลายกลุ่ม หลายจังหวัด ที่ส่งเสียงสะท้อนปัญหาว่ากำลังมองไม่เห็นอนาคตของประเทศ และไม่เห็นผู้คนในโครงสร้างของวันข้างหน้า มีข้อเสนอมากมายที่ให้พวกเราเข้าร่วมกับพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งตั้งพรรคการเมืองที่ไวต่อความเปลี่ยนแปลง เพื่ออนาคตของไทย จากการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มคนที่ต้องการหาทางออกของประเทศ จึงตัดสินใจร่วมกันว่า เราควรร่วมกับผู้มีจิตสาธารณะฟื้นฟูประเทศ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาโดยรวบรวมผู้คนเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทุกรุ่น ทุกวัยมีส่วนร่วมผสานรอยต่อสร้างอนาคตประเทศร่วมกัน

ขณะนี้คณะผู้ก่อตั้งพรรคกำลังดำเนินการเรื่องการจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ของสังคม ซึ่งจะเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการภายในเดือนมกราคมนี้ ส่วนจะมีใครเข้าร่วมบ้าง ภายในเดือนนี้จะประกาศอย่างเป็นทางการ รอคณะผู้จัดตั้งพรรคดำเนินการ เพราะพรรคการเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่พรรคที่ผมหรือคุณสนธิรัตน์เป็นเจ้าของ เราเป็นเพียงสองผู้มีส่วนร่วมเท่านั้น ที่ผ่านมามีคำถามมามาก เราจึงขอเรียนพี่น้องประชาชนถึงความชัดเจน ว่าเรากำลังทำพรรคการเมืองใหม่กับผู้ร่วมอุดมการณ์อีกหลายคนอย่างแน่นอน

ส่วนจะมีใครบ้าง พรรคชื่ออะไร ใครเป็นหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรค ต้องรอคณะผู้ก่อตั้งพรรคตกลงกัน แต่ยืนยันว่าพรรคการเมืองใหม่นี้จะมีผู้เข้าร่วมมากมาย ทั้งผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ภาคประชาชน นักวิชาการ อดีตผู้แทนราษฎร รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบัน เพราะทุกคนเหล่านี้เห็นร่วมกันว่าวันนี้การเมืองในสภาพปัจจุบัน มิใช่การเมืองเพื่ออนาคตประเทศ แต่เราต้องมาสร้างอนาคตประเทศไทยในวันนี้ เพื่อส่งต่อให้คนทุกรุ่นทุกวัย อยู่ร่วมกันอย่างมีอนาคต.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง