แม่หนุ่มพิการถูกฟัน วอนล่าหัวโจกดำเนินคดี

นครพนม 30 ธ.ค.- แม่หนุ่มพิการเหยื่อมือมีด วอนตำรวจล่าตัวเยาวชนวัย 15 ปีที่ก่อเหตุพาเพื่อนดักทำร้ายลูกชาย ด้วยการใช้มีดฟันตามร่างกายจนเจ็บสาหัส  จนถึงขณะนี้ยังตามตัวไม่ได้


ความคืบหน้าคดีกลุ่มวัยรุ่นหมู่บ้านโคกกุง หมู่ 3 ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอเมืองนครพนม รวมตัวกัน 4 -5 คนใช้มีดทำร้ายร่างกาย “น้องบูม” เยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการครึ่งซีกจนบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะกำลังขี่รถพาเพื่อนรุ่นพี่ไปส่งในหมู่บ้านของกลุ่มวัยรุ่น แต่ถูกดักทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพัก “น้องบูม” พบว่าอาการปลอดภัยแล้ว และแพทย์โรงพยาบาลนครพนมได้อนุญาตให้พักฟื้นที่บ้าน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยต้องมีพ่อกับแม่คอยดูแลไม่ห่าง ด้านแม่ของ “น้องบูม” บอกว่ายังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้มีวัยรุ่น 2 คนอายุ 18 กับ 16 ปี เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม และถูกแจ้ง 2 ข้อหาคือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสโดยใช้อาวุธมีด และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่ข้อหาพยายามฆ่ายังต้องสอบสวนต่อ ส่วนผู้ที่ใช้มีดฟัน “น้องบูม” ทราบว่าเป็นวัยรุ่นอายุ 15 ปี ยังหลบหนีอยู่ โดยอีกทั้งผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุยังไม่มาเหลียวแลใดๆ จึงอยากให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างยิ่ง


แม่ของ “น้องบูม” บอกว่าน้องเป็นลูกคนโต ส่วนคนสุดท้องอายุ 13 ปี ภาพรวมครอบครัวฐานะยากจน โดย “น้องบูม” เป็นเด็กที่น่าสงสารเพราะเกิดอุบัติเหตุตอน 10 ขวบถูกรถชน ทำให้เป็นผู้พิการซีกซ้ายอ่อนแรง แต่ยังขยันเรียนหนังสือ ขณะนี้กำลังเรียน ปวช.3 ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-อินโดจีน ถือเป็นเด็กยอดกตัญญู เพราะถึงแม้จะพิการแต่ยังพยายามหาเงินมาเป็นทุนการศึกษา ด้วยการขายนมเปรี้ยวตามแยกไฟแดง ได้เงินวันละ 200 – 300 บาท ส่วนอนาคตฝันว่าอยากเรียนจนจบปริญญาตรี และอยากเป็นช่างยนต์เพื่อหาเงินมาช่วยครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง