รวบแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 4 บาท ที่ระยอง

รวบแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 4 บาท ที่ระยอง

29 ธ.ค. – รวบแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวควงปืนจี้ชิงทอง หนัก 1 บาท 4 เส้น พร้อมเงินสด จากร้านทอง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังก่อเหตุหนีไปกบดานที่นครราชสีมา


เหตุคนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวชิงทอง 4 บาท และเงินสด 15,000 บาท จากร้านทองแม่จรินทร์ 4 ในตลาดชุมชนเนินกระปรอก ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (28 ธ.ค.) โดยภาพจากวงจรปิดจะเห็นคนร้ายเป็นชายอายุ 25-30 ปี สวมเสื้อแจ็กเก็ตเข้าไปในร้านทอง สวมแมสก์ ก่อนชักปืนและส่งถุงผ้าบังคับให้พนักงานหน้าร้านเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 4 เส้น และเงินสดประมาณ 15,000 บาท ใส่ถุงส่งให้ ก่อนรีบวิ่งออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

นางสมปอง ธีระเวษสุวรรณ อายุ 62 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุมีพนักงานหน้าร้านอยู่เพียงลำพัง คนร้ายเดินเข้ามาในร้านได้ชักอาวุธปืนสั้นออกมาแล้วโยนถุงสีขาวพร้อมสั่งให้เอาเงินและทองใส่ถุง ไม่งั้นจะยิง ด้วยความตกใจและกลัวถูกยิง พนักงานจึงรีบหยิบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 4 เส้น ใส่ถุงไปก่อนที่คนร้ายจะบอกให้กดปุ่มเปิดประตู แล้วคนร้ายจึงรีบวิ่งออกจากร้านแล้วขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิ๊ก สีฟ้าขาว หลบหนีมุ่งหน้าอำเภอบ้านฉาง หลังตั้งสติจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที


หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนทั้ง สภ.บ้านบ้านฉาง และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดระยอง เร่งไล่ล่าตัวคนร้าย พร้อมประสาน สภ.ใกล้เคียง ที่เป็นเขตรอยต่อช่วยสกัดคนร้ายตลอดทั้งคืน

เช้าวันนี้ (29 ธ.ค.) พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง เดินทางมาที่ สภ.บ้านฉาง ติดตามความคืบหน้าคดี ตำรวจพบเสื้อคลุมแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ หมวกกันน็อก ที่คนร้ายใส่เข้าไปก่อเหตุ ถูกถอดทิ้งไว้ข้างกองขยะในซอยประเสริฐบุ๊ค เขตเทศบาลเมืองบ้านฉาง ห่างจากร้านทองที่ก่อเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ในบ้านพักในท้องที่ อ.นิคมพัฒนา พบเบาะแสผู้ต้องสงสัยหลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะหลบหนีไปยังบ้านเกิด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ล่าสุดถูกตำรวจควบคุมตัวเอาไว้แล้วขณะหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอศาลจังหวัดระยองอนุมัติออกหมายจับ เพื่อนำไปแสดงและเอาตัวมาดำเนินคดี

เร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวปาหินชิงทองในห้างฯ จ.ปราจีนบุรี
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกปาหินชิงทองในร้านทอง บางกอกโกลด์ส เยาวราช ห้างโลตัส อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แล้วใช้ก้อนหินปาใส่กระจกตู้โชว์ จากนั้นก็วิ่งข้ามตู้โชว์เคาน์เตอร์ด้านหน้าเข้ามากวาดสร้อยคอไปได้ราว 15-20 เส้น แล้ววิ่งออกจากห้าง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไป ใช้เวลาก่อเหตุ 10 นาที


ตำรวจเร่งตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี จากการตรวจสอบคนร้ายก่อเหตุลำพัง ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีแดงดำ เป็นพาหนะ สำหรับสร้อยคอทองคำที่กวาดไปได้สิบกว่าเส้น ปรากฏว่า ด้วยความที่คนร้ายอาจใส่ถุงมือ ทำให้หยิบจับไม่ถนัด ประกอบกับรีบร้อน ทำสร้อยคอทองคำตกหล่นตลอดทาง สรุปสร้อยคอที่คนร้ายได้ไปเหลือเพียง 2 บาท 50 สตางค์เท่านั้น ล่าสุดมีรายงานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และยังกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต