ยธ.พร้อมงัดหลักฐานเด็ดพาครูจอมทรัพย์พ้นมลทิน



กทม. 18 ม.ค.-กระทรวงยุติธรรมแสดงความมั่นใจในพยานและหลักฐานที่จะชี้ชัดว่าครูจอมทรัพย์ไม่ได้ทำผิด ด้านจเรตำรวจแห่งชาติย้ำ 2 วัน กระชากหน้ากากขบวนการจัดฉาก


16 17

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร อ้างว่าตนเองเป็นแพะรับบาปในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ว่าหลังจากที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดพบข้อพิรุธ 2 ประการ ได้แก่ ช่วงปลายปี 2556 หลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษานางจอมทรัพย์แล้ว ปรากฏว่ามีกลุ่มคน 7 คน เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมนำบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุขับรถชนคู่กรณีเสียชีวิตตัวจริงมาแสดงตน แต่ สภ.เรณูนคร ไม่ใช่พื้นที่การสอบสวน จึงทำบันทึกไปยังตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ซึ่งระหว่างนั้นกลุ่มบุคคลทั้ง 7 ได้เดินทางไปพบกับพันตำรวจเอกนายหนึ่ง พร้อมแสดงตัวว่าเป็นผู้ขับรถชน แต่ประเด็นสำคัญคือไม่ใช่นายสับ วาปี ที่ออกมาอ้างว่าเป็นผู้กระทำผิดในขณะนี้

ขณะที่ข้อพิรุธอีกอย่างคือ พบว่ารถยนต์ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ที่นายสับ วาปี เป็นคนขับนั้น พบว่าไม่มีชื่อนายสับ วาปี เป็นผู้ครอบครองเมื่อปี 2547-2552 ซึ่งตำรวจมีข้อมูลกลุ่มบุคคลทั้ง 7 คนแล้ว และมีการสอบปากคำชายที่สมอ้างว่าเป็นผู้ขับรถชนคนแรก เชื่อว่าอีก 1-2 วัน ความจริงจะปรากฏ หลังจากนี้เตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการจัดฉากรับผิดแทนกัน พร้อมเร่งตรวจสอบประเด็นว่าจะมีผู้ใดได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว


18

ด้านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านอำนวยความยุติธรรม ยืนยันว่า นายสับ วาปี ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริงจะเดินทางเข้าให้การในชั้นศาลในวันที่ 8 ก.พ. เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงทั้งหมด หลังจากเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาไม่ได้เดินทางไปให้การกับศาล ขณะที่ล่าสุดพบหลักฐานชิ้นสำคัญชิ้นใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งพยานบุคคล 3 ปาก และวัตถุพยานที่ชี้ชัดว่าครูจอมทรัพย์ไม่ได้กระทำความผิด

19

ขณะที่นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานปากเอกในคดีดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อปี 2548 ตนและเพื่อนเห็นเหตุการณ์ชัดเจน โดยระหว่างขับรถจักรยานยนต์พบมีรถกระบะมีหลังคาขับแซงไป และชนกับรถจักรยานของผู้ตาย โดยพบมีคนเปิดประตูรถยนต์ด้านคนขับลงมาและเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีดำ พร้อมกับนั่งมองดูคนบาดเจ็บ จากนั้นตนและเพื่อนได้บิดคันเร่งเพื่อเพิ่มแสงหน้ารถ แต่ชายคนดังกล่าวก็ได้ขับรถหนีไป ยืนยันเลขทะเบียนคือ เลข 56 ชัดเจน แต่ไม่แน่ใจหมวดอักษรและจังหวัด หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ก็มีญาติของผู้เสียชีวิตมาขอให้เป็นพยานกับตำรวจ ที่สำคัญคือตำรวจไม่ได้ถามว่าคนขับรถเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง