24 ก.ย. – หนุ่มสอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ เตรียมร้องขอความเป็นธรรมต่อ รมว.ยุติธรรม หลังเจ้าหน้าที่แจ้งว่าคุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ ส่วนขั้นตอนการใช้สิทธิทางปกครองทำเรียบร้อยแล้ว
ความคืบหน้ากรณีนายสุรินทร์ ร้องเรียนว่าสอบติดข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ในหน่วยงานที่เขาเลือกไว้ อันดับที่ 1 คือ เรือนจำกลางนครปฐม ได้ลำดับที่ 153 จากจำนวนที่ต้องการ 700 คน สอบเสร็จแล้วผ่านแล้ว รายงานตัวเรียบร้อยแล้ว หลังจากรายงานตัวปรากฏว่าวันที่ 16 พฤษภาคม มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายสรรหาและบรรจุ โทรศัพท์มาแจ้งว่าวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร
ล่าสุดฝ่ายกรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษา ว่าเอกสารประกาศฯ ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) ได้กำหนดวุฒิการศึกษาของผู้สมัครสอบแข่งขันต้องเป็นผู้ได้รับ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ในทุกสาขาวิชา เท่านั้น” โดยมิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน
ส่วนอีกประเด็นที่ราชทัณฑ์ชี้แจงคือ เงื่อนไขการสมัครสอบแข่งขันว่า ผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัคร และจะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง และในกรณีที่มีการผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ หรือคุณวุฒิที่ผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ กรมราชทัณฑ์จะถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น รวมทั้งหากปรากฏภายหลังว่าผู้สมัครสอบรายใดมีคุณสมบัติทั่วไปหรือคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ ก็จะไม่มีสิทธิได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่สอบแข่งขันดังกล่าว
กรณีของนายสุรินทร์ กรมราชทัณฑ์ได้มีหนังสือแจ้งให้มารายงานตัวด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าผู้สมัครสอบได้ตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบพบว่านายสุรินทร์ใช้คุณวุฒิ “ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง)” ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัคร เจ้าหน้าที่จึงประสานเพื่อขอเอกสารคุณวุฒิเพิ่มเติม และแจ้งให้นายสุรินทร์ทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถบรรจุได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ และมีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีชื่อนายสุรินทร์
นายสุรินทร์ ยังคงมีสิทธิในการยื่นเอกสารเพื่อขออุทธรณ์ได้ ต่อมานายสุรินทร์ ได้จัดส่งหนังสือจากสถาบันการศึกษา เพื่ออุทธรณ์ตามสิทธิว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาพลศึกษา หลักสูตร 2 ปี เป็นระดับอนุปริญญา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบวุฒิการศึกษาจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. แล้วพบว่าขัดกับการรับรองคุณวุฒิของสำนักงาน ก.พ. ที่มิได้ระบุว่าประกาศนียบัตรดังกล่าว คือ อนุปริญญา ที่สำคัญกรมราชทัณฑ์มิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน จึงถือได้ว่าผู้สมัครสอบแข่งขันเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ
หนุ่มสอบติดราชทัณฑ์เดินหน้าร้องเรียน ยธ.
ด้านคุณสุรินทร์ ประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษา เอาวุฒิใบประกาศนียบัตรวิชาการการศึกษาชั้นสูง หรือ ป.กศ.สูง นายสุรินทร์จบมาตั้งแต่ปี 2545 เป็นวุฒิที่ยกเลิกการใช้ไปแล้ว ซึ่งเป็นระดับเดียวกับอนุปริญญา ต้องย้ำว่าไม่ใช่เทียบเท่า แต่เป็นอนุปริญญาหลักสูตร 2 ปีเลย เพราะนายสุรินทร์ ได้ไปขอหนังสือรับรองจากวิทยาลัยพละที่เขาจบมา ซึ่งปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร หลังจากนั้นรองอธิการบดีได้พานายสุรินทร์ ไปปรึกษากับ ผบ.เรือนจำที่อยู่ข้างๆ กัน คือที่สมุทรสาคร บอกว่าวุฒิถือว่าตรงตามคุณสมบัติที่กรมราชทัณฑ์กำหนด
ส่วนประเด็นเรื่องการตรวจสอบการเอกสารการสมัคร แม้ว่าเงื่อนไขการสมัครสอบระบุว่าผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัคร อันนี้ตั้งคำถามว่าเป็นการโยนภาระการตรวจสอบคุณสมบัติให้ผู้สมัครสอบอย่างเดียวเลยหรือไม่ แล้วเจ้าหน้าที่ที่นำมาตรวจเอกสาร ตรวจอะไร เพราะมีการตรวจเอกสารถึง 3 ครั้ง ทั้งวันที่สมัครทางออนไลน์ วันที่ 11 มี.ค. วันสอบภาค ค. และวันที่ไปรายงานตัว 6 พ.ค.
ความจริงแล้วในเมื่อท้ายสุดคนตั้งเงื่อนไขคือทางกรมฯ แปลว่าคนที่รู้ดีที่สุดว่าคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ เข้าเกณฑ์หรือไม่ ย่อมต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมฯ หรือไม่ บางทีมันมีเงื่อนไขยิบย่อย สุดท้ายสอบผ่านหมด รายงานตัวแล้ว ลาออกแล้ว ซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องแบบ แบบนี้คนเสียหายคือใคร สิ่งที่เขาต้องการคือต้องการทำงาน
ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ในสังคม ระบุว่า วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 13.00 น. จะพานายสุรินทร์ ไปร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แต่ถ้าหากว่ายังไม่มีความคืบหน้าจะเดินหน้าร้องต่อศาลปกครอง เพราะเวลานี้ขั้นตอนการใช้สิทธิทางปกครองทำเรียบร้อยแล้ว และในอดีตเคยมีแนวทางคำพิพากษาของศาลปกครอง เทียบเคียงกับกรณีนี้ได้มาแล้ว และถึงขั้นคืนตำแหน่งให้ด้วย พร้อมระบุว่าทราบมาว่ามีคนในกรมราชทัณฑ์ก็ใช้วุฒินี้สามารถเข้าทำงานได้เหมือนกัน ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งหมดว่าเข้าไปทำงานได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย