พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

โฆษกรัฐบาลเผยตลอดคืนชายแดนไร้เหตุปะทะรุนแรง

ทำเนียบ 3 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยชายแดนตลอดคืนไม่มีเหตุปะทะรุนแรง ขอประชาชนติดตามสถานการณ์จากช่องทางราชการ ไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวเท็จ เมื่อเวลา 07:00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับรายงานถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของไทย ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่าง เฝ้าระวังและป้องกันเหตุอย่างต่อเนื่อง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังฝากประชาชน ขอให้ติดตามสถานการณ์ ผ่านช่องทางของหน่วยงานราชการ และไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวเท็จ บิดเบือนด้วย .-316 -สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ฝากประชาชนในพื้นที่ตามข่าวสารจากแหล่งเชื่อถือได้

อุบลราชธานี 29 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 6 เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่สงบหลังเที่ยงคืน ประชาชนในศูนย์ผู้อพยพเริ่มคิดถึงบ้าน อยากให้เจรจาหาทางออกได้โดยเร็ว ด้านผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันไม่เป็นความจริง กรณีมีกระแสข่าวเกิดเสียงปืนใหญ่ที่ช่องบก และโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากเวลา 24.00 น. ไม่มีเสียงปืนใหญ่ดังในพื้นที่ บรรยากาศตลอดช่วงเช้ายังคงเงียบสงบ เนื่องจากทางอำเภอยังไม่ได้ให้ผู้อพยพเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ยังคงให้ชุดผู้นำชุมชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ประจำการในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพเท่านั้น ส่วนที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และทำตามระเบียบข้อปฏิบัติของศูนย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปข้างนอกที่จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจเช็กยอดประจำทุกวัน โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา ทางศูนย์จะอำนวยความสะดวก มีอาหารให้บริการครบ 3 มื้อ และมีบางส่วนเริ่มปรับตัวได้ เนื่องจากอยู่มาหลายวัน อีกทั้งยังคงติดตามข่าวสารการเจรจาของทหารในวันนี้ว่าจะจบลงอย่างไร เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน รวมถึงขาดรายได้ ขณะเดียวกันยังมีภาครัฐและเอกชน หลั่งไหลนำสิ่งของมามอบให้ผู้อพยพตามศูนย์ต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ […]

“สรวงศ์” เผยเหตุปะทะไทย-กัมพูชา นักท่องเที่ยวยกเลิกเดินทางแล้ว 8 พันคน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-“สรวงศ์” เผยเหตุไทย-กัมพูชา ทำนักท่องเที่ยวยกเลิกเดินทางแล้ว 8 พันคน สั่งแจงนานาชาติแล้ว จุดปะทะไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยว มั่นใจตัวเลขได้ตามเป้า “พิชัย” เชื่อหากสถานการณ์คลี่คลาย เศรษฐกิจกลับเหมือนเดิม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ภายหลังเกิดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เท่าที่เช็คใตช่วงเช้าที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางแล้ว 8 พันราย แต่ไม่มีการยกเลิกฟลท์บิน ซึ่งยังไม่ดูรายละเอียดในเรื่องสัญชาติว่ามีชาติอะไรยกเลิกบ้าง แต่ขณะนี้เราได้ทำหนังสือไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในต่างประเทศ ให้ทำหนังสือชี้แจงแล้ว ว่าจุดที่ปะทะไม่ใช่เป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่อย่างไรอย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เรื่องประกันภัยการท่องเที่ยว แต่ละประเทศจะมีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองว่าจะไม่ครอบคลุม ทำให้ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เมื่อถามว่า ยอดนักท่องเที่ยวที่ยกเลิกจะขยายวงกว้างมากกว่า 8 พัน หรือไม่ รมว.ท่องเที่ยว กล่าวว่า คงไม่เป็นแบบนั้น ซึ่งเราพยามทำความเข้าใจ และมั่นใจว่า ททท. และกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้ทำหนังสือไปยังทูตประเทศต่างๆ แล้ว เมื่อถามว่า ยอดนักท่องเที่ยวปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ก็พยามทำ […]

รมว.ยธ.ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย

26 ก.ค. – รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ในนามรัฐบาล สั่งการทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เร่งฟื้นฟูร่างกาย-จิตใจ-ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สั่งเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากการสู้รบ บริเวณ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อพยพประชาชนต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน-เร่งประสานช่วยเหลือใกล้ชิด

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมฝ่าวิกฤติ พร้อมเร่งประสานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหา เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย และเร่งรัดการประสานงานด้านความช่วยเหลือในทุกมิติ ภารกิจเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง โดยนายอนุทินได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ สอบถามความเป็นอยู่ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากเหตุความไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ทุกภาคส่วนจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งใน ต.ไพรบึง เช่นกัน โดยระหว่างการพบปะชาวบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินหน้าช่วยเหลือโดยไม่รีรอ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมประสานทุกหน่วยงาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน และคณะ มีกำหนดการเยี่ยมเยียนพื้นที่เสี่ยงภัยและจุดอพยพอีกหลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกจุดที่เดินทางไปถึง โดยมีการพูดคุย รับฟังข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในแต่ละชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการผลักดันนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง.-319-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ให้กำลังใจผู้ประสบภัยสู้รบ ยกย่องหัวใจคนไทย “ไม่ทิ้งกัน”

บุรีรัมย์ 25 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ยกย่องหัวใจคนไทย “ไม่ทิ้งกัน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อรองรับผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ โดยได้พบปะและให้กำลังใจประชาชนที่อพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิง ตลอดจนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกล่าวว่า ขอชื่นชม “หัวใจของคนไทย” ที่ยังคงยืนหยัดเคียงข้างกันในยามวิกฤติ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานความมั่นคง บุคลากรสาธารณสุข อาสาสมัคร และภาคประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นไทย เราอาจจะเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่เราไม่ทิ้งกัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เสียสละเพื่อดูแลผู้ประสบภัย และขอยืนเคียงข้างพี่น้องคนไทยทุกคนในช่วงเวลานี้” นายอนุทิน กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย

แม่เปิดใจ เหตุปะทะชายแดนพรากชีวิตลูกชาย

25 ก.ค. – ญาติเตรียมรับร่างทหารกล้า “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ถูกทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่ถล่มเสียชีวิต แม่เผยลูกชายอยากเป็นทหาร สอบนายสิบและทำงานอยู่บริเวณชายแดนนานกว่า 10 ปีแล้ว แม้ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ แต่ภูมิใจลูกชายทำเพื่อชาติ ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา อายุ 35 ปี รวมตัวกันที่บ้านใน ต.บ้านซ่ง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เพื่อจัดเตรียมสถานที่รอรับร่าง จ.ส.อ.ธวัชชัย ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดย จ.ส.อ.ธวัชชัย มีภารกิจยิงต่อต้านรถถังของฝ่ายกัมพูชา นางวิไล อายุ 58 ปี แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืน (24 ก.ค.) ประมาณ 21.00 น. ลูกชายโทรมาหาบอกว่าเสร็จภารกิจแล้ว กำลังจะอาบน้ำเข้านอน หลังจากนั้นวางสายไป ต่อมาตนเห็นข่าวเหตุการณ์ปะทะชายแดน จึงโทรศัพท์หาลูกชาย ได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายเสียชีวิต ทั้งนี้ ลูกชายอยากเป็นทหาร จนไปเป็นทหารเกณฑ์ แล้วรู้สึกชอบจึงสอบนายสิบ และทำงานอยู่บริเวณชายแดนนานกว่า 10 ปีแล้ว แม้ว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูก […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สุรินทร์อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง หลังเหตุปะทะหนักหน่วง

สุรินทร์ 24 ก.ค. – จ.สุรินทร์ อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง 3 จุด หลังเหตุปะทะหนักหน่วงตลอดทั้งวันและกินพื้นที่วงกว้าง ส่วนกรณีมีข่าวทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง RM-70 โจมตีชายแดนสุรินทร์ คาดน่าจะเป็น BM-21 มากกว่า.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร. ย้ำสั่งชุดควบคุมฝูงชนสแตนด์บายชายแดนไทย-กัมพูชา

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. ย้ำสั่งชุดควบคุมฝูงชนสแตนด์บายชายแดนไทย-กัมพูชา ตามการร้องขอของทหาร เตรียมพร้อมหากเกิดเหตุปะทะ – ยืนยันยังไม่มีอะไรน่ากังวล พร้อมดูแลม็อบ 26-27 ก.ค.นี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการเตรียมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เพื่อประจำพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดพิพาทใกล้ประสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเท่านั้น ตามการร้องขอจากทางกองทัพภาคที่ 2 เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ผบ.ตร. ระบุว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในพื้นที่ชายแดนคือกองกำลังสุรนารีและกองทัพภาคที่ 2 ส่วนตำรวจถือเป็น “หน่วยสนับสนุน” ในกรณีที่มีการร้องขอให้ช่วยดูแลความเรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อาจมีประชาชนบางกลุ่มเดินทางไปชมบริเวณประสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อการเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเล็กน้อยในพื้นที่ชายแดน จึงเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นอีก ทางทหารจึงร้องขอให้ตำรวจเตรียมกำลังไว้ล่วงหน้า หากสถานการณ์จำเป็น ตำรวจพร้อมสนับสนุนเพื่อแยกผู้ที่มีปัญหา ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทหรือความรุนแรง ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่ใช้กำลังตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลแนวชายแดนโดยตรง ผบ.ตร. ชี้แจงว่า แม้ ตชด.จะมีความชำนาญในพื้นที่เช่นกัน แต่ปัจจุบันมีภารกิจอื่นอยู่ จึงเห็นว่าการใช้กำลังตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชน […]

1 2 3 4
...