จัดตำรวจ 80,000 นายดูแลจราจรปีใหม่

กทม.16 ธ.ค.- ตร.จัดกำลัง 80,000 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจรประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ผอ.ศจร.ตร.) พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เตรียมกำลังตำรวจกว่า 80,000 นาย  อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน คาดปีนี้จะมีปริมาณรถเข้า-ออก กทม.ช่วงวันที่ 29 ธ.ค.64 – 4 ม.ค.65 มากกว่า 7 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าปี 2564 ซึ่งมีประมาณ 6 ล้านเศษ โดยประชาชนจะเริ่มเดินทางตั้งแต่ 29 ธ.ค.64 และปริมาณรถที่จะออกมากที่สุดในวันที่ 30 และ 31 ธ.ค.64  ปริมาณรถที่จะกลับเข้า กทม. มากที่สุดวันที่ 3 ม.ค.65 จึงได้กำชับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม ตั้งแต่การจัดทำแผนที่แสดงเส้นทางสำรอง เส้นทางเลี่ยง และเส้นทางลัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คืนพื้นผิวจราจรให้ภายใน 25 ธ.ค.64 เช่น ถนน.มิตรภาพ กม.31 ซึ่งมีการก่อสร้างทางขึ้นลง Motorway M6 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรในแต่ละเส้นทาง บริเวณทางร่วมทางแยกและหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถ โดยมีศูนย์ควบคุมสั่งการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีสายด่วน 1193 หรือ เพจ facebook ตำรวจทางหลวง และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02)  สายด่วนหมายเลข 1197 (พื้นที่ กทม.) เพื่อให้บริการประชาชน ในการสอบถามเส้นทาง รับแจ้งอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ ยัง ออกข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร 2 ฉบับ   คือ ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่อง (Reversible Lane) ขาออก กทม. 9 เส้นทาง ระหว่าง 29 ธ.ค.64- 1 ม.ค 65 และขาเข้า กทม. 16 เส้นทาง ระหว่าง 1 ถึง 4 ม.ค.65  เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถช่วงที่หนาแน่นให้คล่องตัว และ ข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย   ตั้งแต่30-31 ธ.ค.64 และตั้งแต่ 2 – 4 ม.ค.65 เส้นทางห้ามวิ่ง 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 194 กม. ทั้งนี้สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถยื่นคำขอขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ของ บก.ทล.ได้ที่  www.hwpdth.com โดยเริ่มเปิดระบบขออนุญาตทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.64 เป็นต้นไป


พร้อมบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก (10 รสขม) ดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด รวมทั้งกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่  1) ขับรถย้อนศร   2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และ 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน  จะดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท โดยในการตรวจจับการกระทำผิด จะใช้วิธีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามมาตรฐาน (Standard Operation Procedure) รวมถึงการใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือมีสถิติการกระทำผิดบ่อยครั้ง ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.64 เป็นต้นไป และกรณีเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจจะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการสอบสวนขยายผล ในกรณี ที่เด็กหรือเยาวชนดื่มสุราแล้วมาขับรถ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายสุรา ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ และดำเนินคดีกับบุคคลที่ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือบุคคลที่ และบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวด (การห้ามจำหน่ายสุราในเวลาห้าม และ ห้ามดื่ม-ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์  ในสถานที่กฎหมายกำหนด และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี)

รอง ผบ.ตร ยังย้ำว่าในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัย ให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ทุกนายห้ามลาช่วงเวลาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี