ตร. พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรปีใหม่ เข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย

กรุงเทพฯ 25 ธ.ค.- ตร. พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร เพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ การเจ็บ การตาย ทั้งถนนหลักและถนนรอง ห้วงวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2563


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีความห่วงใยในการเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมากและในช่วงวันคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่า  ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความพร้อมมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 ณ ห้องประชุมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสห่วงใยประชาชนในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ รัฐบาลจึงรับพระราชกระแส กำชับให้ทุกส่วนราชการเตรียมความพร้อมและให้ความสำคัญกับการกวดขันวินัยจราจรอย่างจริงจังและต่อเนื่อง  เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุ อาทิเช่น การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การขับรถขณะเมาสุรา พร้อมให้ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมบูรณาการกำลัง ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจและด่านชุมชนตามเส้นทางหลักและรอง มีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ ยานพาหนะ  เป็นต้น


พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.  ลงไปกำกับดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร ของประชาชน นักท่องเที่ยว พร้อมเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ การเจ็บ การตาย ทั้งถนนหลักและรอง ในห้วงวันคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่2563 

พร้อมสั่งการให้กองบัญชาการทุกภาคส่วน อำนวยความสะดวกและดูแลการจราจรแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกการจราจรและจัดระเบียบการจราจรตามเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ตลอดทุกเส้นทางที่พี่น้องประชาชนใช้สัญจรกลับภูมิลำเนา โดยกำหนดให้มีการเปิดเส้นทางพิเศษ เพื่อระบายรถขาขึ้น-ขาล่อง พร้อมทั้ง จัดให้มีจุดบริการประชาชน จุดแวะพักรถระหว่างทาง ตลอดจน จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว คอยดูแลการจราจรในเส้นทางเข้า-ออก จุดที่พี่น้องประชาชนเข้าไปใช้บริการอย่างหนาแน่น อาทิ สถานีขนส่ง หมอชิต สายใต้ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และ บริเวณที่จัดงานเคาท์ดาวน์ต่างๆทั่วประเทศ

ประกอบกับ จัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถ กวดขันจับกุมตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ได้แก่ ขับรถเร็ว, ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ย้อนศร, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย,ไม่มีใบขับขี่, แซงในที่คับขัน, เมาแล้วขับ, ไม่สวมหมวกนิรภัย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย, ใช้มือถือขณะขับขี่รถ และ การออกข้อบังคับ เจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดช่องแนวทางเดินรถขึ้น และล่องในถนนบางสายและห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเดินในถนนบางสาย ตลอดจน ให้ตรวจสอบรถบัส รถตู้โดยสารสาธารณะ จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก มีป้าย มีการเสียภาษี มีเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน วิ่งในความเร็วที่กำหนด โดยพนักงานขับรถต้องได้รับอนุญาต มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีจำนวนพนักงานที่เพียงพอ พักผ่อนเพียงพอ ไม่ขับรถขณะเหนื่อยล้า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น


ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกับ จิตอาสาพระราชทาน ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอดจนการประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้  การลดความเสี่ยงจากการขับรถเร็วและการเมาแล้วขับ การเสริมสร้างและรณรงค์รักษาวินัยจราจร การส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายจราจร และ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ลงไปกำกับดูแล เน้นย้ำ ห้ามลา  ห้ามขาด ช่วงเทศกาลปีใหม่2563 ทำงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง  

ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่จะเดินทางใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอให้พี่น้องประชาชนศึกษาเส้นทาง ตรวจเช็คสภาพรถ เครื่องยนต์ ก่อนออกเดินทาง เพราะหากเครื่องยนต์ สภาพรถมีปัญหา จะทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น และพี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางการจราจร หรือสามารถแจ้งอุบัติเหตุ ขอความช่วยเหลือรถเสียในเขต กทม.ได้ที่ สายด่วน บก.จร. หมายเลข 1197 ตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 หรือ  สายด่วน191 ในเขตพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ  และ ศปก.ตร. 1599  หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่น POLICE I LERT U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยทั่วไทยอากาศหนาว-ภาคใต้ ฝนน้อย

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน อากาศหนาวถึงหนาวจัด ภาคใต้มีฝนน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย ก่อเหตุ จยย.บอมบ์

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย คาดเป็นคนร้ายก่อเหตุ จยย.บอมบ์ ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ และชาวมาเลเซีย

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย